"วีระ สมความคิด" เดินเครื่องบุกกกต.อีกรอบจี้ชูใบแดงผู้สมัครพลังประชาชนยกพรรคก่อนการเลือกตั้ง ชี้มีพฤติกรรมเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย ระบุมีหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว ถ้าทำหลังเลือกตั้งจะเกิดความเสียหาย เตือนถ้ากกต.เพิกเฉยอาจเข้าข่ายละเว้น ส่วน"ประแสง" วอนหาเรื่องท้าทายไม่เลิก วันนี้(14 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น (คปต.) ได้เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)วินิจฉัยให้ใบแดงกับพรรคพลังประชาชนก่อนการลงคะแนนเลือกตั้ง โดยระบุว่า ถ้ารอหลังเลือกตั้งไปแล้วอาจทำให้เกิดความเสียหาย เพราะจะต้องทำให้จัดการเลือกตั้งกันใหม่ " เวลานี้ข้อมูลต่างๆ มีความชัดเจนว่าพรรคพลังประชาชนไม่อาจดำเนินกิจการทางการเมืองต่อไปได้ เพราะมีพฤติกรรมเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย จึงอยู่ในอำนาจที่กกต.จะต้องสั่งให้หยุดการดำเนินการในทันทีโดยสามารถให้ใบแดงได้เลย ซึ่งกรณีนี้เป็นคนละเรื่องกับที่กกต.จะพิจารณาเรื่องการยุบพรรคพลังประชาชน เพราะเรื่องดังกล่าวยังต้องใช้เวลาอีกนาน" นายวีระ ระบุ เมื่อถามว่า กฎหมายไม่มีการให้ใบแดงพรรคการเมือง นายวีระ กล่าวว่า ให้ใบแดงผู้สมัครทุกคนไปเลยก่อนเลือกตั้ง เพราะถ้าไปให้ภายหลังก็จะต้องเสียงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งใหม่ และทำให้เกิดความเสียหาย เมื่อถามต่อว่าหากกต.ไม่ดำเนินการตามที่ร้องขอ จะทำอย่างไรต่อไป นายวีระ กล่าวว่า เราก็ต้องดูว่าเราได้พยามยามทำเต็มที่ที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง แต่ถ้ากกต.ไม่สนองตอบในอนาคตเกิดความเสียหายเกิดขึ้นก็ต้องถือว่ากกต.มีเจตนาละเว้น ทำความเสียหายที่จะเกิดต่อรัฐ ซึ่งทางคปต.ก็จะได้ยื่นเรื่องต่อปปช.ให้ดำเนินการกับกกต.ต่อไป นายวีระ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการสืบสวนซีดีทักษิณ ของกกต. ระบุว่า 1 เดือนอาจจะไม่เพียงพอในการพิจารณาว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากคณะอนุกรรมการดังกล่าวว่าให้มาให้ข้อมูล แต่ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้มีความชัดเจนเพียงพออยู่แล้ว เพราะข้อกล่าวหาทั้ง 13 ข้อที่ได้ยื่นร้องต่อกกต.ก็ชี้ชัดแล้วว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย ซึ่งไม่เห็นมีใครในพรรคพลังประชาชนออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของตนว่าไม่จริง จึงเท่ากับว่าพรรคพลังประชาชนก็ยอมรับ ส่วนที่มีการระบุว่า ถ้ามีการยุบพลังประชาชนทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟนั้น นายวีระ กล่าวว่า คนที่พูดและจะทำให้บ้านเมืองเกิดจลาจลก็ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ตำรวจในฐานะที่เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยหากปล่อยให้เขามาเผากกต.หรือวางระเบิด ตำรวจก็มีความผิด แต่ตนไม่รู้สึกหวั่นไหว ว่า เมื่อยุบพรรคพลังประชาชนแล้วจะมีความวุ่นวายอย่างนั้นเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายวีระ ยื่นหนังสืออยู่นั้นนายประแสง มงคลสิริ ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน จ.อุทัยธานี ก็ได้นำรถหาเสียงที่มีป้ายเป็นรูปตนเองและพ.ต.ท.ทักษิณปรากฏอยู่พร้อมข้อความว่า ใครไม่กล้า ผมอาสาพาทักษิณกลับบ้านเอง ขับมาจอดหน้าสำนักงานกกต.และลงมาเปิดการปราศรัย รวมนำวีซีดีทักษิณ 1 ปีที่หายไป มาประกาศให้ยืม โดยขอให้ผู้ต้องการยืมลงชื่อ พร้อมนามสกุล เมื่อนำไปดูเสร็จแล้วขอให้ส่งคืนหากไม่คืนก็จะตามทวง ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนที่ผ่านไปมาลงชื่อขอรับวีซีดีไปจำนวนมาก ทั้งนี้ระหว่างที่นายประแสงกำลังแจกซีดีและระบุตอนหนึ่งว่า ตนเอาซีดีนี้มาให้กกต.ขอให้ลงมารับ เพราะที่นายวีระเอาซีดีมาให้กกต.ก็เรียงหน้ากันลงมา ปรากฏว่านายวีระยื่นหนังสือเสร็จพอดีและกำลังจะเดินทางกลับ จึงได้เข้าไปทักทาย พร้อมกับขอซีดีจากนายประแสง แต่นายประแสง อ้างว่าต้องลงชื่อและต้องนำมาคืนเนื่องจากซีดีแผ่นละ 19 บาทต้องทำรายงานต่อกกต. ทำให้นายวีระไม่ยอมรับซีดี และเดินทางกลับไป นายประแสง กล่าวว่า ที่มานอกจากต้องการมาหาเสียงกับคนอุทัยธานีที่อาศัยอยู่ในกทม.และจะใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตในวันนี้ ( 15-16 ธ.ค.) ได้รับทราบนโยบายแล้ว ยังต้องการมาทวงถามใบแดงจากกกต. เพราะก่อนหน้านี้แจกผ่านสื่อมา 2-3 วันแล้ว ทั้งที่ไม่มีการร้องเรียน ไม่มีการเรียกตนมารับทราบข้อกล่าวหา วันนี้จึงมาให้เห็นกับตา และอยากทราบว่าเมื่อไหร่จะแจกเสียที รวมทั้งอยากให้ยืนยันว่า กกต.ได้มีการประสานกับหน่วยงานความมั่นคงในการส่งคนไปติดตามพฤติกรรมตนที่จ.อุทัยฯหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้กกต.จังหวัดก็มีการไล่ตามเก็บข้อมูลโดยการถ่ายภาพต่างๆ ไว้ แต่ขณะนี้กลับเวลานี้มีรถแวน รถสีเขียว และรถยีเอ็มซี มาคอยตามอีก จึงอยากรู้ว่าตนไม่ได้มีคู่แข่งเป็นผู้สมัคร แต่เป็นแข่งกับกกต.ใช่หรือไม่ 3-4 วันที่ผ่านมากกต.มาแจกใบแดงตามสื่ออย่างนี้ใช้ไม่ได้ไม่มีมารยาท ทำแบบนี้ถามว่าสมัยเป็นผู้พิพากษาเคยตัดสินคดีข้างถนนไหม รอบนี้ผมไม่อยากได้แล้วใบเหลือง อยากเป็นแบบ ซีดาน ที่ต้องการรักษาเกียรติภูมิของพ่อแม่ เลยต้องขอโป้งสักที ฉะนั้นเกียรติทักษิณ ผมก็ต้องรักษาเหมือนกัน เวลานี้ก็กำลังปรึกษานกักฎหมายเพื่อที่จะฟ้องร้องกกต.ฐานทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดว่าผมถูกใบแดงแล้ว นายประแสงกล่าว เมื่อถามว่า กกต.ก่อนหน้านี้กกต.เคยมีระเบียบห้ามผู้สมัครนำบุคคลอื่นมาถ่ายรูปคู่เพื่อใช้หาเสียง ทราบหรือไม่ นายประแสง กล่าวพร้อมกับชี้ไปที่รถหาเสียงว่า ผมไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ถ่ายรูปคี่ คือมีรูปลูกสาวผมรวมอยู่ด้วย และที่ไม่มีรูปนาย สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค มาหาเสียงก็เพราะว่าผมไม่เคยถ่ายรูปคู่และหารูปนายสมัครไม่ได้ แต่ผมหาเสียงอย่างนี้มาตั้งแต่วันสมัครแล้ว อยู่ดีๆ กกต.ก็มีมติเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ทำให้ผมต้องมีหนังสือมาถึงกกต.เพื่อต้องแจ้งให้ทราบว่า ผมได้มีการดำเนินการไปก่อนที่จะมีมติไปแล้ว ซึ่งผมก็ไม่ใช่ หนึ่งใน 111 คนที่ถูกสั่งเพิกถอนสิทธิ แต่มติที่ออกมาห้ามผู้สมัครถ่ายรูปคู่กับ 111 คน ทำไมต้องให้ผมไปพันอยู่กับตรงนั้นด้วย ผมถามว่าถ้าแฟนผมขับรถชนแล้วตำรวจสั่งปรับ ผมต้องถูกปรับไปด้วยหรือไม่ ผมถึงบอกว่ามตินี้เป็นมติอัปยศ และอยากให้กกต.จำไว้ว่าในอดีต มติกกต.นี้แหละที่ทำให้ กกต.ต้องเรียงเถวเข้าคุกลาดยาวมาแล้ว |
โดย ผู้จัดการออนไลน์ | 14 ธันวาคม 2550 18:41 น. |
From:Mr.K.Cheng Gong (จิ้งจอกหน้าหยก เซียวอิงจวิ้น)