ประชัย ฉุนถูกลูกพรรครุมไถเงินคนเดียว

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย

ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสมิติเวชว่า เป็นการตรวจสุขภาพประจำปี ไม่ได้เหน็ดเหนื่อยจากการลงพื้นที่หาเสียง แม้ จะเป็นโรคหัวใจ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสู้ศึกเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้ายที่ต้องลงพื้นที่หนักขึ้น พร้อมที่จะสู้อย่างเต็มที่ แต่หากมีการยึดเรื่องเงินกันมากๆ ก็ไม่ขอสู้ “ผมตั้งใจอุทิศสติปัญญามาแก้ไขปัญหา และกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) น่าจะดูแลเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงให้ดี เนื่องจากผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคมัชฌิมาธิปไตยอ้างว่า มีการใช้เงินซื้อเสียงช่วงโค้งสุดท้ายจำนวนมาก จึงมาขอเบิกเงินเพื่อไปอัดฉีดหาเสียง แต่จากการลงพื้นที่ยังไม่เคยเจอปัญหานี้ด้วยตัวเอง” นายประชัยกล่าว

นายประชัยกล่าวว่า ขอประกาศว่าจะไม่จ่ายเงินเพิ่มให้ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เพราะผิดหลักการของการเลือกตั้ง

ส่วนผู้สมัครที่อ้างว่ายังไม่ได้รับเงินสนับสนุนนั้น ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่ตนไม่เกี่ยวข้อง เพราะผู้สมัครต้องมีหน้าที่ดูแลตัวเอง และที่ผ่านมา ได้สนับสนุนผู้สมัครตามที่กฎหมายกำหนดไปแล้ว และว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ก็มีเรื่องการเรียกรับเงินเช่นกัน แต่โชคดีที่หัวหน้าพรรคไม่ต้องมาจัดการ

“พรรคนี้มีผู้บริหารพรรค 30-40 คน แต่ส่งลูกมาให้หัวหน้าพรรครับเพียงคนเดียว แต่ละคนไม่มีใครรับผิดชอบเรื่องเงิน เรื่องทอง บางทีผมก็ให้บ้าง บางทีก็ไม่ให้ ถ้าผู้สมัครไม่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเลย ใครจะไปจ่ายเงินให้ พวกประเภทนกแลไม่ค่อยมีใครอยากไปสนับสนุน เมื่อคุณสมัครแล้วก็ต้องวิ่งไปหาเสียงมากกว่าจะมานั่งออที่พรรค บอกไปกี่ครั้งแล้วไม่เชื่อ ชอบมานั่งออกันอยู่ ไม่รู้มานั่งออทำไม”

นายประชัยกล่าวว่า ไม่ได้ปิดท่ออะไร แต่จะทำหน้าที่หัวหน้าพรรคธรรมดาเท่าที่จะทำได้
 
และที่ผ่านมา นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรค เคยมาช่วยดูแลบ้าง และยินดีให้คำแนะนำผู้สมัครของพรรคที่เตรียมเดินทางเข้าพบที่พรรค แต่จะให้การสนับสนุนมากน้อยเพียงใด แล้วแต่ความจำเป็น ค่าน้ำมันรถ ป้ายโฆษณาหาเสียง แต่ไม่ใช่นำไปซื้อสิทธิขายเสียง
 

“มันไม่ถูกต้องในหลักการการเลือกตั้ง พูดให้ใครฟังก็ขายหน้าเขา ฉะนั้น ผู้สมัคร ส.ส.ที่จะมาเรียกร้องอะไร มากมาย น่าจะคิดได้ว่า ไม่ควรที่จะมาทำเป็นเรื่องอื้อฉาว ดีไม่ดีจะถูกจับ เอาเวลาไปหาเสียงดีกว่ามาเรียกร้องต่างๆ นานา ผมคิดว่าถ้าเอานโยบายเราไปขายให้ประชาชน น่าจะได้รับเลือกตั้ง” นายประชัยกล่าว