มาร์คท้าวัดดวงหมัก-พปช.

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค

กล่าวถึงพรรคเพื่อแผ่นดินขออาสาเป็นแกนนำรัฐบาล เพื่อยุติความขัดแย้งทางการเมืองว่า ทางที่ดีที่สุดคือมาคุยเรื่องปัญหาบ้านเมืองและประชาชน ถ้ารัฐบาลสามารถลดค่าครองชีพให้ประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ คิดว่าบรรยากาศบ้านเมืองดีขึ้นทันที ยืนยันว่าไม่ต้องห่วงพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน การทำงานจะยึดหลักธรรมาภิบาล กฎกติกาและรัฐธรรมนูญ จะไม่ทำให้ความขัดแย้งลุกลามออกไป

"ประเด็นที่ชอบพูดกัน เช่น เรื่องคุณทักษิณ ขอย้ำว่าทุกรัฐบาลต้องไม่ต่างกัน คุณทักษิณต้องกลับมาประเทศไทยเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม คดีที่อยู่ในศาลต้องตัดสินโดยศาลยุติธรรมและข้อกฎหมาย ต้องไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหารและรัฐบาล จึงจะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ผมอยากเรียกร้องพรรคพลังประชาชนว่า ถ้ากกต.บอกว่าอะไรที่ทำไม่ได้ ก็ควรหยุดทำและเคารพตรงนี้ จึงจะพิสูจน์ความตั้งใจที่จะปรองดองสมานฉันท์ ไม่ใช่บอกว่าทำผิดแล้วทำต่อเพื่อท้าทาย เพื่อนำไปสู่วิกฤตทางการเมืองรอบใหม่ อย่าไปทำ ประชาธิปัตย์ไม่ต้องการให้ยุบพรรคในช่วงนี้ แต่ต้องการให้เดินหน้าสู่การเลือกตั้งเพื่อให้ประชาชนตัดสินว่าจะให้ประชาธิปัตย์หรือพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ตัดสินว่าจะให้คุณสมัคร หรือหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้นำรัฐบาล ถ้าการเลือกตั้งสุจริต เราก็ยอมรับผลอยู่แล้ว และอยากให้ประชาชนตัดสินว่าถ้าพฤติกรรมของพรรคที่มีลักษณะท้าทายให้เกิดปัญหา จะมาแก้ปัญหาให้ประชาชนและสร้างความสมานฉันท์ได้อย่างไร" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

เมื่อถามถึงผลการสำรวจโพลคะแนนนิยมพรรคการเมืองของสำนักต่างๆ ระบุว่า
 
พรรคประชาธิปัตย์ยังแพ้พรรคพลังประชาชน และยังมีคนที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกพรรคการเมืองใดอยู่จำนวนมาก นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ผลที่ออกมาว่าน้อยกว่านั้น คลาดเคลื่อนทางสถิติมาก ขณะนี้สูสีมาก จึงอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน รวมทั้งพลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจและไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งทางการเมือง ดังนั้น ทุกคะแนนจึงมีความหมายต่อชาติบ้านเมือง อยากให้ประชาชนสนับสนุนการมีผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ซื่อสัตย์ เป็นประชาธิปไตย และเป็นการเมืองที่ยึดประชาชนมาก่อน

ต่อข้อถามว่าเป็นห่วงว่าจะเกิดปัญหาก่อนการเลือกตั้งหรือไม่

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่ห่วง เชื่อว่าใน 2 สัปดาห์ที่เหลือก่อนเลือกตั้ง ประชาชนจะแยกแยะออกว่าในที่สุดใครมุ่งมั่นจะไปทำงานและรักษาผลประโยชน์ของประชาชน หรือใครยังกังวลอยู่กับเรื่องของตัวเองและพวก ซึ่งช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายทำให้ตนมีความหวังมากขึ้น ทั้งนี้ พรรคจะลงไปให้ทั่วทุกพื้นที่ โดยจะไปหาคะแนนเสียงจากประชาชนบนความนิยม ความศรัทธา และเอาชนะเงินให้ได้