ปธ.ศาลปกครองตอกรู้ดีขอบเขตอำนาจ สอบลิ่วล้อ ทรท.หมิ่น

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2549 11:22 น.

ประธานศาลปกครองสูงสุด ตอกลิ่วล้อ ทรท. ยันรู้ดีว่ามีอำนาจหน้าที่อย่างไรไม่ต้องให้ใครมาบอก แย้มตุลาการเตรียมนำเข้าสู่กระบวนการฟ้องหมิ่นศาล ระบุใกล้ชิดทุกพรรคการเมืองไม่เว้น ทรท.

วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 08.40 น. นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่ นายโสภณ เพรชสว่าง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย สมาชิกกลุ่มวังน้ำยม กับพวกออกมาวิพากษณ์วิจารณ์ว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจในการตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ พร้อมทั้งเตรียมฟ้องร้องว่า ก็แล้วแต่ว่าใครจะพูดอะไรก็พูดไป หน้าที่เราเราก็ทำตามหน้าที่ของเราไปไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว

ถามว่า การออกมาวิพากษณ์วิจารณ์ศาลปกครองว่าทำเกินหน้าที่ศาลเพราะศาลปกครองสามารถพิจารณาได้เฉพาะกรณีหน้าที่ในการพิจารณาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวว่า เรื่องอำนาจหน้าที่ ศาลเขารู้ว่ามีหรือไม่มีอย่างไร ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะมาบอก บางคนมีหน้าที่ชี้ก็ชี้ ไมใช่คนทั่วไปจะมาพูดอย่างไรก็ได้ จะวิจารณ์อย่างไรก็ได้คิดว่าไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่าการออกมาวิพากษณ์วิจารณ์ของ ส.ส.ไทยรักไทยครั้งนี้เป็นการละเมิดอำนาจหรือหมิ่นศาลหรือไม่ นายอักขราทร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของศาลที่เกี่ยวข้องที่จะพิจารณาดำเนินการให้ชัดเจนไม่หน้าที่ของตน

เมื่อถามต่อว่า ในส่วนของศาลปกครองมีกฎหมายรองรับในส่วนที่เกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวว่า ขึ้นชื่อว่าเป็นศาลก็ต้องมีบทบัญญัติอย่างนี้ ยกเว้นแต่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของศาลแต่ละศาลที่เกี่ยวข้อง เพราะศาลพิจารณาดำเนินการอยู่จะเป็นการพิจาณาเพื่อให้เกิดความชัดเจน ตนไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรเพราะไม่ใช่หน้าที่ตน เป็นเรื่องของศาลไม่ใช่เรื่องของประธานคนที่พิจารณาจะเป็นคนดูเอง

จะพิจารณาไปตามระบบ เป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของตุลาการที่จะพิจารณาว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ส่วนจะเป็นการก้าวก่ายอำนาจศาลหรือไม่นั้นผมไม่รู้ และผมก็ไปตอบแทนไม่ได้ คงต้องมีศาลที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาดำเนินการให้เกิดความชัดเจน ไม่เช่นนั้นสาธารณชนจะสับสน นายอักขราทร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคไทยรักไทย ออกมาพาดพิงว่ามีตุลาการศาลปกครองบางคนมีความใกล้ชิดพรรคประชาธิปัตย์ ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวว่า ไม่ใช่ทั้งหมด ที่เป็นไทยรักไทยตักเตือนกันเองก็มี เราไม่ได้ไปว่าใครเป็นใคร ใครพูดก็ต้องไปถามคนนั้น

เมื่อถามว่า ตุลาการศาลปกครองที่ถูกกล่าวหาต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ นายอักขราทร กล่าวว่า ไม่รู้เป็นหน้าที่ของศาลไม่ใช่หน้าที่ตน ศาลจะพิจารณาไปตามเรื่อง ประชาชนจะได้ไม่สับสน

ส่วนจะมีการประสานกับศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะ ส.ส.ไทยรักไทยมีการกล่าวอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีอำนาจหน้าที่ของศาลปกครอง นายอักขราทร กล่าวว่า ไม่เป็นไรอ้างได้อยู่แล้ว มันมีอยู่ทุกขั้นตอนทำกันมาโดยตลอด จะว่าอย่างไรก็ว่ากัน ศาลก็คือศาล เรารู้อยู่แล้วว่าอะไรคืออะไร

เมื่อถามอีกว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องของศาลปกครองที่สั่งระงับการเลือกตั้งซ่อม ตรงส่วนนี้จะเป็นปัญหากับการพิจารณาคดีหรือไม่ ประธานศาลปกครองสูงสุด กล่าวว่า ก็ว่ากันไปตามกระบวรการพิจาณาของศาลรัฐธรรมนูญ ก็แล้วแต่ว่าหน้าที่ของใครก็ทำไปตามหน้าที่ เพราะมันมีกลไกของมันอยู่ในกฎหมายและวิธีพิจารณา ไม่ต้องเป็นห่วง ถึงเวลาก็ชัดเจนเอง

ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ภายหลังจากมีข่าวการวิพากษ์วิจารณ์ศาลปกครองดังกล่าว มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาให้กำลังใจศาลปกครองหลายราย โดยรายหนึ่งเป็นสุภาพสตรีโทรศัพท์มาบอกว่าขอให้กำลังใจศาลปกครองสูงสุด และเจ้าหน้าที่ศาลทุกคน เพราะขนาดเป็นศาลยังโดนข่มขู่แบบนี้ ไม่รู้ประชาชนจะเป็นอย่างไร การข่มขู่ศาลเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จึงขอให้กำลังใจตุลาการศาลปกครองทุกคน โดยเฉพาะนายอักขราธร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด

นอกจากนี้อีกรายที่เป็นสุภาพบุรุษ ยังเสนอแนะให้ศาลเอาผิดฐานละเมิดให้เป็นแบบอย่าง เพราะได้พูดคุยกับเพื่อนที่เป็นนักกฎหมาย เชื่อว่าสิ่งที่ ส.ส. ไทยรักไทยให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดศาลอย่างชัดเจน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2549 13:35 น.

นักกฎหมาย ชี้ โสภณ ไม่มีสิทธิ์หมิ่นคำตัดสินศาล ระบุพฤติกรรมเข้าข่ายทำลายความสงบมีโทษจำคุก 6 เดือน ยันศาลไม่จำเป็นต้องฟ้อง รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีได้ทันที

วันนี้(3 พ.ค.)นายสัก กอแสงเรือง อดีตนายกสภาทนายความและรักษาการ ส.ว. กทม. กล่าวถึงกรณีการวิจารณ์อำนาจในการพิจารณาคดีของศาลจะนับเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่นั้นว่า ศาลปกครองมีอำนาจในการไต่สวนเรื่องนี้ ซึ่งปรกติถ้าศาลเห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์เป็นการละเมิดศาลอย่างชัดเจน ศาลก็จะใช้อำนาจออกหมายไต่สวนได้ ซึ่งโทษในการละเมิดอำนาจศาลจะมีการจำคุกทันที 6 เดือน โดยการพิจารณานั้นศาลจะหยิบยกพยานในการไต่สวนและจะดูการกระทำและเจตนา อย่างกรณีของนายโสภณนั้น มีการกล่าวอ้างว่าเพื่อนโทรศัพท์มาบอก ว่ามีตุลาการศาลปกครองบางคนมีความสัมพันธ์กับพรรคฝ่ายค้าน ศาลก็จะมาดูว่าคำพูดตรงนี้น่าเชื่อถือแค่ไหน และใครจะเป็นคนพูด และพูดจริงหรือไม่ เพราะกรรมเป็นเครื่องส่อเจตนา

โดยส่วนตัวคิดว่าการกระทำของ ส.ส. ไทยรักไทยกลุ่มนี้ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะผู้นำพรรคเป็นคนพูดเองว่าอย่าให้ฝ่ายอื่นมากดดันศาล และอย่าวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาล แต่สมาชิกในพรรคเดียวกันกลับเป็นฝ่ายออกมากดดันศาลเสียเอง แบบนี้จะให้เรียกว่าอะไร เพราะเมื่อมีการตัดสินออกมาแล้ว ทุกฝ่ายต้องยอมรับในอำนาจของตุลาการ ไม่ใช่มาโต้แย้งดักคอแบบนี้ อดีตนายกสภาทนายความกล่าว

ต่อข้อถามว่า ส.ส. ไทยรักไทยออกมาระบุว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจในการพิจารณาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะนั้น นายสักกล่าวว่าการพิจารณาอยู่ในขอบเขตอำนาจของแต่ละศาลที่สามารถจะกระทำได้ แต่ถ้ามีปัญหาโต้แย้งกัน ศาลอื่นก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตัดสินชี้ขาด ตนคิดว่าหากใช้ช่องทางนี้ตัดสิน จะเป็นช่องทางที่เหมาะสม ไม่ใช่ให้ ส.ส. ไทยรักไทยใช้วิธีออกมากดดันแบบนี้ ดังนั้นสิ่งที่ ส.ส. ไทยรักไทยกลุ่มนี้กำลังกระทำอยู่ จึงเข้าข่ายกดดันศาล ละเมิดอำนาจศาล และข่มขู่ศาล และหากศาลพิจารณาว่ามีความผิดจริง ก็สามารถดำเนินการด้านกฎหมายกับบุคคลกลุ่มนี้ทันที

ส่วน นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวว่าในฐานะนักกฎหมายการละเมิดหรือหมิ่นศาลของนายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคไทยรักไทย ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ทำลายความสงบเรียบร้อยของศาล มีโทษจำคุก 6 เดือน โดยหลักแล้วตนเชื่อว่าทางคณะตุลาการศาลปกครองคณะอื่นๆ ที่ไม่ใช่คณะที่อยู่ในคดีพิจารณาการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.เป็นโมฆะหรือไม่ จะเรียกหลักฐานต่างๆ มาพิจารณาแล้วก็จะเรียก นายโสภณ มาไต่สวน เพื่อดำเนินการลงโทษ ตามวิธีพิจารณาคดีของศาล ไม่จำเป็นต้องมีการฟ้องร้อง เพราะเป็นเรื่องของการกระทำที่ละเมิดอำนาจศาล ทำลายความสงบเรียบร้อยต่อศาล มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน

ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร ไม่มีสิทธิไปออกมาพูดแบบนี้ ซึ่งตามกฎหมาย นายโสภณ จะถูกลงโทษได้เลยไม่ต้องรอ ไปฟ้องร้องอะไรแค่คณะตุลาการอื่นๆ เรียกข้อมูล เทป วีดีโอมาดูถ้า ถ้าหมิ่นศาล ลงโทษไปได้เลย เพราะเป็นคดีทำลายความสงบเรียบร้อยของศาลติดคุกอย่างน้อย 6 เดือนแน่นอน นักวิชาการรายนี้ กล่าว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2549 11:01 น.

โสภณ จ๋อยถอยกรูด หลังทำปากกล้าเอาใจนายขู่ฟ้องศาลปกครองหากสั่งให้การเลือกตั้งโมฆะ เจอดีหลังถูกขอเทปคำให้สัมภาษณ์พิสูจน์ดูหมิ่นหรือไม่ พร้อมทั้งอ้างการระดมพล 485 ส.ส.วันพรุ่งนี้แค่การหารือเพื่อหาทางออกวิกฤตบ้านเมือง ไม่ใช่การข่มขู่ใคร

วันนี้ (3 พ.ค.) นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ และกลุ่มวังน้ำยม พรรคไทยรักไทย ย้ำว่า ยินดีหากศาลปกครองจะนำเทปคำแถลงข่าวเมื่อวานไปตรวจสอบว่าเข้าข่ายละเมิด หรือข่มขู่ศาลหรือไม่ โดยยืนยันไม่เคยพูดว่าจะฟ้องศาลปกครองหากวินิจฉัยให้ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะ แต่พูดว่าจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัยว่าศาลปกครองมีอำนาจชี้ขาดเรื่องการเลือกตั้งหรือไม่ เพราะเห็นว่าศาลปกครองไม่มีอำนาจวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เนื่องจากรัฐธรรมนูญให้อำนาจศาลปกครองพิจารณาข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานรัฐกับเอกชน และหน่วยงานรัฐกับรัฐ และที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งเป็นอำนาจของคณะกรรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

นอกจากนี้ นายโสภณยังกล่าวอีกว่า การนัดรวมตัว ส.ส.485 คน ในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ค.) ว่าไม่มีเจตนาจะข่มขู่การทำงานของฝ่ายใด เพียงแต่จะร่วมหารือเพื่อแก้วิกฤติทางการเมืองที่เกิดขึ้นให้เดินหน้าไปได้เท่านั้น และการเข้าร่วมก็ไม่ได้บังคับ ใครจะมาหรือไม่ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ทั้งนี้ ในการแถลงของนายโสภณ และพวกที่รัฐสภา มีการระบุว่าศาลปกครองบางคนมีความเกี่ยวพันกับพรรคฝ่ายค้าน ทำให้ไม่มั่นใจในความยุติธรรม