นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตนายกสมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
กล่าวปาฐกถาพิเศษรำลึกถึง นายบุญชู โรจนเสถียร อดีตนายกสมาคมและรมว.คลัง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า ในอนาคตประเทศไทยจะยืนอยู่บนจุดพลิกผัน หากเราสามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่วนตัวเชื่อว่าไทยยังมีศักยภาพในการพัฒนาให้ก้าวหน้า และมั่นคง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในภาคธุรกิจที่มีความมั่งคั่ง มีความพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว ขอให้เข้าสู่การเมืองอย่างมีเป้าหมายและมีทิศทาง เป็นการมอบโอกาสที่ดีแก่ชุมชน สังคม และประเทศ ไม่ปล่อยให้ประเทศเสียโอกาสมากไปกว่านี้
ในงานเดียวกัน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าว
ในหัวข้อทิศทางประเทศไทยหลังการเลือกตั้งว่า หลังจากวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ไม่ว่าพรรคการเมืองไหนจะได้เป็นรัฐบาล และไม่ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการให้เป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี หรือปีครึ่ง คือโครงการเซาเทิร์นซีบอร์ด และโครงการโลจิสติกส์ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันยังไม่ดำเนินการ อีกทั้งการให้ความสำคัญโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) และเรื่องหวยบนดินที่ควรทำให้เกิดมาตรฐาน ไม่ให้พรรคการเมืองใช้เป็นช่องว่างในการหาเสียงแก่คนในระดับรากหญ้า
"ไม่จำเป็นว่า รัฐบาลไหน ใครเป็นรัฐบาล แต่เป็นหมากบังคับที่รัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งต้องเร่งกระตุ้นการลงทุนภาครัฐ เพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน
โดยเฉพาะการอนุมัติโครงการอุตสาหกรรมปิโตรเคมี จำนวน 11 โครงการ เม็ดเงินลงทุนกว่า 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งมีความพร้อมและสามารถเดินหน้าให้แล้วเสร็จได้ภายใน 2-3 เดือน เชื่อว่าจะทำให้การลงทุนภาคเอกชนตามมาอีกกว่า 30-40 โครงการ รวมถึง กทบ. ประมาณ 78,000 หมู่บ้าน และนโยบายหวยบนดินที่มีคนเดินโพยกว่า 220,000 คน ที่รู้สึกติดค้างบุญคุณพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งอนุมัติโครงการกระตุ้นการลงทุนให้เดินหน้า ควบคู่กับการใช้นโยบายการเงิน
โดยรมว.คลังคนใหม่ต้องระวังการบริหารนโยบายการคลังไม่ให้ขาดดุลมากเกินไป ขณะที่การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องอิงกับอัตราเงินเฟ้อให้มาก แม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง และมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการได้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจกับพรรคการเมืองว่า
ขอทำหน้าที่เพียงให้คำปรึกษาแก่ทีมเศรษฐกิจ ซึ่งมีพรรคชาติไทยเพียงพรรคเดียวที่โทร.มาขอคำปรึกษานโยบายด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องๆ ไป ไม่ได้รับนั่งตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
"ผมไม่ได้เป็นที่ปรึกษาพรรคไหน แต่รับปากไว้ว่าจะให้คำปรึกษาเรื่องเศรษฐกิจให้พรรคชาติไทย
ซึ่งสาเหตุที่ต้องเป็นพรรคชาติไทย เพราะมีพรรคชาติไทยเพียงพรรคเดียวที่ขอคำปรึกษา พรรคอื่นคงไม่มี" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว