โพลชี้ ปชช.ไม่เห็นด้วย แม้ว รีเทิร์น - หนุน สมคิด นั่งนายกฯ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2549 11:50 น.

เอแบคโพลล์ เปิดผลสำรวจส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ทักษิณ รีเทิร์นเล่นการเมือง ร้อยละ 84.8 ระบุอยากเห็น สมคิด นั่งแท่นนายกฯ ขณะที่ความรู้สึกต่อเหตุการณ์บ้านเมืองเสียงเกินครึ่งแนะหันหน้าแก้วิกฤต ส่วนร้อยละ 87.3 ชี้ทุกฝ่ายควรรอ-ยอมรับมติศาล

วันนี้ (3 พ.ค.) สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดตามข่าวสารการเมืองเกือบทุกวัน เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อการกลับมาสู่สนามการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระหว่างวันที่ 1-2 พฤษภาคม 2549 ปรากฏว่า ประชาชนร้อยละ 44.4 มีความเห็นต่อกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะกลับมาลงสมัครเลือกตั้ง เพื่อเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หรือควรเสนอให้คนอื่นในพรรคไทยรักไทยเข้ามาแทน ว่า ควรเสนอคนอื่นในพรรคไทยรักไทยมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน เพราะบ้านเมืองจะได้สงบเรียบร้อย เป็นการรักษาคำพูด พรรคมีคนอื่นที่เหมาะสมเช่นกัน เป็นการแสดงความเสียสละไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ในขณะที่สัดส่วนใกล้เคียงกัน คือร้อยละ 42.7 มีความเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรกลับมาลงสมัครเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่า เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ถามถึงบุคคลอื่นที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีแทน ร้อยละ 84.8 เห็นว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เหมาะสม เพราะมีความรู้ทางด้านเศรษฐกิจดี มีความน่าเชื่อถือและโปร่งใส รองลงมาร้อยละ 8.7 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะมีความสามารถทางการเมือง และอยากให้ผู้หญิงเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง

เมื่อสอบถามความรู้สึกต่อสถานการณ์การเมืองขณะนี้ พบว่า ร้อยละ 96.5 เห็นว่าการเมืองเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ ร้อยละ 89.4 เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันมาเจรจากันถึงที่สุด ร้อยละ 73.7 วิตกกังวลต่อเหตุการณ์การเมือง ร้อยละ 73.4 เบื่อหน่ายต่อเรื่องการเมือง และร้อยละ 44.7 รู้สึกเครียดต่อเรื่องการเมือง ส่วนความคิดเห็นต่อบทบาทของพรรคการเมืองภายหลังการตัดสินชี้ขาดของศาลในปัญหาทางการเมืองขณะนี้ พบว่า ร้อยละ 87.3 เห็นว่า พรรคการเมืองควรยอมรับการตัดสินชี้ขาดของศาล โดยให้เหตุผลว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

สำหรับความนิยมศรัทธาต่อพรรคการเมืองหากไม่ยอมรับดุลพินิจของศาล พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าความนิยมจะลดลง เพราะไม่เคารพสถาบันที่ประชาชนให้ความศรัทธาเชื่อถือ และไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ไม่เคารพกติกา ขณะที่ร้อยละ 13.1 ระบุความนิยมไม่ลดลง เพราะต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตนเอง มีความศรัทธาในตัวบุคคล เป็นสิทธิของแต่ละพรรค

ส่วนพรรคการเมืองที่วางตัวเหมาะสม คือ รอคำวินิจฉัยของศาลได้อย่างดี เรียงตามลำดับ คือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยรักไทย พรรคชาติไทย พรรคมหาชน และพรรคอื่นๆ ผลสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่อยากให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน ลงสมัครรับเลือกตั้งหากมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ และส่วนใหญ่มีความเห็นว่าสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคการเมืองเดียวเกือบ 500 ที่นั่งไม่เป็นประชาธิปไตย ขณะที่ประชาชนเกือบ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 32.5 คิดว่าเป็นประชาธิปไตย