ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (10 ธ.ค.) ว่า
ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณด้านหน้ารัฐสภา พรรคการเมืองต่างๆ อาทิ พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย ตลอดจนคณะบุคคล หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคเอกชน รวมทั้งประชาชน ได้ร่วมกันประกอบพิธีวางพวงมาลาและพานประดับพุ่มดอกไม้ ถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เพื่อระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช 2475 ซึ่งนับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรกของราชอาณาจักร ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า
ได้ประกาศชัดว่าภายหลังการเลือกตั้ง หากพรรคได้เป็นรัฐบาลจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน เพราะหลายมาตราทำให้รัฐบาลมีความอ่อนแอ แทนที่จะทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งขึ้น จึงอยากถามคนยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นคนหรือเปล่า จึงได้ยกร่างออกมาเช่นนี้ อย่างหมายเลขประจำตัวผู้สมัครแทนที่จะทำให้เป็นหมายเลขเดียวกันทั้งหมด กลับทำให้มีหลายหมายเลขจนทำให้สับสน หรือแม้แต่สมาชิกวุฒิสภาก็มีการปรับลดจำนวนลง และให้มาจากการสรรหากับการเลือกตั้ง
“การโหวตแต่ละครั้ง ส.ส.ก็ต้องวิ่งกันพล่าน การยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างนี้ มีเจตนาทำให้บ้านเมืองปั่นป่วนมากกว่า ดังนั้นจึงขอเสนอให้นำรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 นี้เป็นหลัก” หัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าว
ด้านพล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า
ยังไม่จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้ ควรใช้ไปก่อนหากสะดุดให้บันทึกไว้ เพื่อแก้ไขพร้อมกันในภายหลัง เพราะหากยังไม่ได้รัฐธรรมนูญแต่แก้ไขเลย พวกที่ยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาก็จะรู้สึกไม่ดี แต่ทั้งนี้หากจะมีการแก้ไขก็ควรยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลักไว้
ขณะที่นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า
ควรใช้รัฐธรรมนูญไปก่อน แล้วไปแก้ไขภายหลัง เพราะพรรคได้รวบรวมข้อมูลไว้แล้ว โดยเห็นว่า สิ่งที่ต้องแก้ไขคือ เรื่องการเลือกตั้ง