ได้เชิญตัวแทนพรรคการ เมืองมาชี้แจงถึงนโยบายของพรรคที่จะปฏิบัติในด้านต่างๆ โดยครั้งนี้มีนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และนายประมวล รุจนเสรี หัวหน้าพรรคประชามติ เข้าร่วมการเสวนา โดยนายสุวิทย์กล่าวว่า ขณะนี้จะเลือกขั้วไหนระหว่างเอาและไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ต้องมีปัญหาทั้งนั้น เพราะอีกฝ่ายหนึ่งยังต้องข้อสงสัยฝ่ายตรงข้ามว่าใช้อำนาจโดยมิชอบอยู่ดี เมื่อเรารู้ว่าต่างฝ่ายต่างไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน ก็ต้องทำให้เกิดความมั่นใจว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณกลับเมืองไทยจะได้รับความเป็นธรรม ถ้าทำผิดก็ต้องติดคุก ถ้าไม่ผิดก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยอย่างสุขสบาย ต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับเข้ามาสู่ กระบวนการยุติธรรมให้ได้ ขณะเดียวกัน ต้องทำให้ พ.ต.ท. ทักษิณมั่นใจด้วยว่า เขาจะได้รับความเป็นธรรมจริงๆ เพราะหากเรื่องนี้ยังค้างคาในใจอยู่ แม้จะมีการเลือกตั้งไปแล้วทุกอย่างก็ยังไม่ยุติ เพราะแต่ละฝ่ายต่างจะกลัวการล้างแค้นกันไม่จบ ยิ่งกว่าหนังกำลังภายใน จึงจำเป็นต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุให้ได้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงและการนองเลือดตามมาหลังเลือกตั้ง
ชี้เงินบวกอำนาจรัฐมีแต่ความฉิบหาย
นายประมวลกล่าวว่า ก่อนตายอยากเห็นการเมืองที่ไม่ใช่การเมืองของเจ้าสัว จึงพยายามขอความร่วมมือไปยังสหกรณ์ต่างๆ โดยทำจดหมายขอรับการสนับสนุนในการจัดตั้งพรรคการเมืองไปถึง 6 พันกว่าฉบับ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับกลับมาเลยสักฉบับเดียว เมื่อหันมาขอให้พรรคพวกร่วมลงขันกันทำการเมือง ก็ปรากฏว่าทุกคนหนีไปหมด จึงขอยืนยันเลยว่าการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.นี้ พรรคที่มีเงินเท่านั้นที่จะเข้ามามีอำนาจรัฐ เมื่อเงินบวก
อำนาจรัฐก็จะเกิดแต่ความฉิบหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในช่วงท้าย พระพยอมได้ถามตัวแทนพรรคการเมืองว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณนั่งอยู่ใกล้ๆอยากจะพูดอะไรให้เขาฟัง นายสุวิทย์ตอบว่า จะบอกว่าคนไทยทุกคนต้องเห็นแก่ชาติบ้านเมือง ดังนั้นจะทำอะไรก็ขอให้นึกถึงชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่ตั้ง และหากพรรคเพื่อแผ่นดินได้เป็นรัฐบาล ขอยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ ในการจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณพิสูจน์ตัวเอง ขณะที่นายประมวลกล่าวในเรื่องเดียวกันว่า “จะพูดว่าทักษิณน้องรัก สบายใจเถอะ พี่จะให้ความเป็นธรรมและคุ้มครองทุกอย่าง”
การเมืองวันนี้เหมือนฝีติดเชื้อรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พระพยอมยังได้ซักถามต่อไปว่า พ.ต.ท.ทักษิณประกาศว่าพร้อมจะเป็นที่ปรึกษาให้กับทุกพรรคการเมือง ท่านจะรับหรือไม่ นายสุวิทย์ตอบว่า ไม่จำเป็น เพราะนโยบายหลายเรื่องเราทำได้และเป็น ต้นคิดเอง ตราบใดที่ยังแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไม่ได้ จะทำอะไรต่อก็ไม่มีประโยชน์
นายสุวิทย์ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการเสวนาด้วยว่า ขณะนี้สถานการณ์การเมืองเหมือนฝีที่กำลังจะแตกอาจติดเชื้อรุนแรงบานปลาย จึงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างให้ชัดเจนก่อนการเลือกตั้ง ทั้งนี้ที่ท่านมาได้มีการพูดคุยกับบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองหลายพรรคอย่างไม่เป็นทางการในเรื่องนี้บ้าง เพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง ต่อข้อถามว่า มองว่าศาลมีความยุติธรรมเพียงพอหรือไม่เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีความไม่เชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม นายสุวิทย์ตอบว่า ตนมั่นใจว่าศาลมีความเป็นกลางและเป็นธรรมเพียงพอ แต่ขณะนี้อยู่ที่พยานหลักฐานที่นำเสนอต่อศาลเท่านั้น
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
