ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ....กล่าวว่า ขณะนี้ ชั้นกรรมาธิ การได้พิจารณา พ.ร.บ.เสร็จแล้วกว่าร้อยละ 80 โดยรวมจะเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวกมากขึ้น ทั้งชื่อ พ.ร.บ.และคำนิยามที่ระบุถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ ซึ่งการพิจารณายังอยู่บนหลักการของการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่กฎหมายจะต้องเป็นเครื่องดูแลความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ประชาชน จนถึงประเทศชาติ หลักของกฎหมายต้องมีเครื่องมือให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยดุลอำนาจระหว่างทหาร ตำรวจ พลเรือน และมีกระบวนการยุติธรรมเข้าตัดสิน หากมีการกระทำเกินเหตุ จะสามารถฟ้องร้องต่อศาลได้ ยกเว้นมาตรการคุ้มครองชั่วคราวบางประการ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ลุล่วง
นายสมชาย กล่าวต่อว่า
นอกจากการตัด ม.22 ออกทั้ง ม. จะมีการพิจารณาการใช้อำนาจตาม ม.17 ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อย่างเช่น การห้ามเข้า ให้ออกจากพื้นที่ โดยให้ดำเนินการได้เฉพาะห้วงเวลาที่มีปฏิบัติการ รวมทั้งเพิ่มหลักเกณฑ์การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ มิให้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนเกินกว่าเหตุ และกำหนดการใช้อำนาจของ กอ.รมน. ให้มีเวลาและพื้นที่ปฏิบัติงานชัดเจน อีกทั้งต้องรายงานผลการปฏิบัติต่อสภาผู้แทนหรือวุฒิสภาเมื่อภารกิจสิ้นสุด.