อภิสิทธิ์´ เร่งเกมพลาด (อีกมุมมองที่ทีมการเมืองไทยรัฐมองแตกต่างจากหนังสือพิมพ์อื่นๆ

ในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมยุบสภาก็ถือว่า ถอยเกือบสุดกู่

การคืนอำนาจให้ ประชาชนไปตัดสินกันใหม่ อย่างน้อยเลยนี่คือ การแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะผู้นำประเทศ ที่ไม่ต้องการให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย

ยุติการเสียเลือดเสียเนื้อในบ้านเมือง

ที่สำคัญทุกอย่างเป็นไปตามกติกาที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ถ้าจะเรียกร้องกันนอกเหนือกติกานี้

ก็ต้องฉีกรัฐธรรมนูญสถานเดียว

เครือข่ายพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ญาติธรรมสันติอโศกของ มหาจำลอง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสุริยะใส กตะศิลา รวมไปถึงกลุ่มองค์กรภาคประชาชนต่างๆ

มีสิทธิเต็มที่ในการที่จะรณรงค์ไม่ให้ประชาชนเลือกพรรคไทยรักไทย

ปิดทางคนชื่อ ทักษิณ กลับสู่อำนาจ

รวมไปถึงเรียกร้องให้พรรคการเมืองต่างๆ ชูธงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในการหาเสียงเลือกตั้งกับประชาชน

นี่คือกระบวนการประชาธิปไตยอย่างสันติ

แต่การเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ประชาชนปฏิเสธการเลือกตั้ง ทั้งๆที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งลงมาแล้ว ต้องตั้งสติทบทวนกันให้ดี

ม็อบกดดันใคร

ในเมื่อถามหาจริยธรรมจาก ทักษิณ แกนนำม็อบสนามหลวงก็ต้องถามความชอบธรรมของตัวเองด้วย

แต่ที่กระตุกอารมณ์สังคมอย่างมาก กระแสตีกลับอย่างแรง

เกมคว่ำบาตรเลือกตั้งของพรรคร่วมฝ่ายค้าน

ไม่แน่ใจใครเป็นต้นคิด แต่เกมเสี่ยงๆอย่างนี้ ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประชาธิปัตย์ ชาติไทย มหาชน เห็นพ้องต้องกันพรึบเดียวทั้ง 3 พรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายบรรหาร ศิลปอาชา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ จับมือกันอย่างแข็งขันตั้งแต่นาทีแรกก็ยังอ้างน้ำหนักได้

แต่นี่ บรรหาร ก็ออกอาการแทงกั๊ก ยึกๆยักๆ

อะไรไม่ว่า แม้แต่ในประชาธิปัตย์เองก็เถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด พ่นบุหรี่กันมวนต่อมวนกว่าจะสรุป

เท่าที่รู้เบื้องหลังทีแรกเลย อภิสิทธิ์ ก็ยังลังเลๆ ฝ่ายที่เร่งเกมบอยคอตเลือกตั้งกลายเป็นนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่พูดชัด

เกมนี้น่าเสี่ยง

ตกลงกันไม่ได้ ก็โยนให้หัวหน้าพรรคฟันธง แต่นายอภิสิทธิ์ก็ยังไม่กล้าตัดสิน ปัดให้ใช้วิธีลงมติลับสุดท้ายเมื่อนับกองกระดาษฝ่ายที่ต้องการให้คว่ำบาตรเลือกตั้งเยอะกว่า

อภิสิทธิ์ ก็ประกาศเลยว่า หากเกิดอะไรขึ้นจะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

แต่ก็มาสะดุดตอนต่อสายไปบอกมติพรรคกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ที่ติดงานบุญทอดผ้าป่าอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับเสียงตอบกลับมา ขอให้ใจเย็นๆ คิดให้ รอบคอบ น่าจะทำตามระบบรัฐสภามากกว่า

ชวน ไม่เอาด้วย

และถ้าย้อนเหตุการณ์กลับไปเมื่อช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ หลังจากที่นายกฯทักษิณประกาศยุบสภาไม่ถึงชั่วโมง เสธ.หนั่น เป็นคนแรกเลยที่ออกมาส่งสัญญาณเข้มๆ

อาจไม่มีการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน

นี่ก็ชัดแล้วว่า ธงอยู่ที่ใคร ใครเป็นคนกำหนดเกมฝ่ายค้านล้มกระดานเลือกตั้ง

อย่าลืม บัญญัติ ก็คือสายตรงบ้านสนามบินน้ำ

นี่สะท้อนว่า ถึงเวลาทีเด็ดทีขาด อภิสิทธิ์ ก็เป็นหัวหน้าพรรคแค่เพียงในนาม แต่อิทธิพลแฝงในการบริหารพรรคจริงๆอยู่ที่ใคร

เสธ.หนั่น ที่มีลูกพรรคแค่ 3 คน สามารถกำหนดเกมของพรรคใหญ่ 90 กว่าเสียงอย่างประชาธิปัตย์ได้

อภิสิทธิ์ กลายเป็นเด็กน้อยทางการเมืองไปเลย

อะไรไม่ว่า เกมนี้พลาด บรรหาร ทำท่าจะเบี้ยว อภิสิทธิ์-เสธ.หนั่น เลยต้องหาทางออกแก้เกี้ยว เปิดเกมไล่บี้ให้ ทักษิณ ร่วมลงสัตยาบันจะเปิดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปการเมืองรอบสอง พรรคร่วมฝ่ายค้านถึงจะยอมส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง

ขึ้นอยู่กับ ทักษิณ จะยื่นบันไดให้ อภิสิทธิ์ ไต่ลงหรือเปล่า

นี่แหละผลของเกมตื้นๆ คิดแค่จะกดดัน ทักษิณ โหนกระแสม็อบเฉพาะหน้า

แต่ลืมไปว่า มันคือการรวมหัวกันฉีกรัฐธรรมนูญ

พรรคชาติไทย พรรคมหาชนน่ะไม่สะเทือน แต่กับประชาธิปัตย์ที่ยืนอยู่บนหลักการ เดินตามเส้นทางประชาธิปไตยอย่างแน่วแน่ตลอด 60 ปี สู้กับเผด็จการมาทุกรูปแบบ แต่วันนี้ปฏิเสธเวทีเลือกตั้งตามกติกา

ต่อไปจะอ้างหลักการ เอ่ยถึงระบบรัฐสภาก็พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ.