กกต.มีมติประกาศรับรองผลส.ส.ปาร์ตี้ลิส99คนแล้ว

กกต.มีมติประกาศรับรองผล ส.ส.ปาร์ตี้ลิส 99 คน รวม 2 แบบได้ ส.ส. 485 คน ส่งเลขาธิการสภาวันนี้ ถือว่า กกต.ทำหน้าที่การจัดการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ยันปฏิบัติและยึดหลักกฎหมายทุกอย่าง ปชป.จวก กกต.ดื้อตาใส ดันทุรังรับรองผลเลือกตั้งแบบขอไปที ทั้งที่มีเรื่องร้องเรียนมากมายแต่ไม่ตัดสิน กลับจ้องจับผิด หาทางยุบพรรค ปชป.

เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการคระกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังการประชุม กกต. ว่า กกต.มีมติประกาศรับรองผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 99 คนของพรรคไทยรักไทย แม้ว่าก่อนหน้านี้พรรคไทยรักไทยจะยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครมาทั้ง 100 คน และเมื่อคำนวณคะแนนต่อจำนวน ส.ส.พรรคไทยรักไทยได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อทั้ง 100 คน

เลขาธิการ กกต. กล่าวต่อว่า ภายหลังพรรคไทยรักไทยได้แจ้งมายัง กกต. ว่าเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่า น.พ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ หรือพระเปรมศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 93 ได้ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ทำให้การเป็นสมาชิกพรรคของ น.พ.เปรมศักดิ์ สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 118 อนุ 4 อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 145 อนุ 5 และมาตรา 10 อนุ 8 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และ ส.ว พ.ศ. 2541 และมาตรา 77 พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และ ส.ว .แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3 พ.ศ.2543 และมติ กกต. ครั้งที่ 51/2549 ลงวันที่ 30 เม.ย. จึงได้ประกาศรับรองผล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทยจำนวน 99 คน

พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กกต. ยังมีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเพิ่มเติมอีก 4 เขตของพรรคไทยรักไทย คือ นายเรืองเดช สุพรรณฝ่าย เขต 11 จ.ขอนแก่น นายอนุสรณ์ นาคาศัย เขต 1 จ.ชัยนาท นายสมบูรณ์ ไพรวัลย์ เขต 2 จ.แม่ฮ่องสอน และนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ เขต1 จ.สมุทรปราการ เมื่อรวมกับรายชื่อที่กกต.ประกาศรับรองไปแล้วจำนวน 382 คน เป็น 485 คน

"ช่วงบ่ายวันที่ 30 เม.ย. กกต.ได้ส่งรายชื่อที่ได้รับการรับรองผลทั้งสิ้น 485 คน และในส่วนที่เหลืออีก 14 เขต ตามที่ศาลปกครองกลางสั่งระงับการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ไปให้ทางสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการวุฒิสภา และสำนักราชเลขาธิการ" เลขาธิการ กกต. กล่าวและว่า

อย่างไรก็ตาม กกต.จะประสานไปยังพรรคไทยรักไทย ให้บุคคลที่ กกต.ประกาศรับรองผลแล้วมารับใบรับรองได้ที่กกต.นับแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ถือว่า กกต.ได้ปฏิบัติหน้าที่การเลือกตั้ง การจัดการเลือกตั้งมาตรา 7/1 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และสว. พ.ศ.2541 ที่ระบุว่า กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้น 30 วัน หลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งถือว่า กกต. ได้ปฏิบัติและยึดหลักตามกฎหมายทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต. จะพิจารณาเรื่องทุจริตใบเหลืองใบแดงได้เมื่อใด พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียน 26 สำนวน ซึ่งได้พิจารณาไปแล้วบางส่วน เหลือประมาณ 10 สำนวน โดย กกต.จะพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถพิจารณาใบเหลืองใบแดงได้ เพราะยังมีหลายประเด็นที่ส่งให้ศาลพิจารณา และได้มีการร้องให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.เป็นโมฆะด้วย ซึ่งต้องรอฟังคำสั่งศาลก่อน ถ้าหากว่า กกต.วินิจฉัยใบเหลืองใบแดงไปก่อนแล้วให้ใบเหลืองไปแดงไปก็แย่

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่า กกต.จัดการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม พล.ต.ต.เอกชัย ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งยืนยันว่า กกต. ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บัญญัติทุกประการ เมื่อถามอีกว่า กกต.ชุดนี้จะดำเนินการอย่างไรหากศาลมีคำพิพากษาให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.เป็นโมฆะ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถามกรรมการฯเอาเองในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนตนเป็นเพียงแค่ฝ่ายธุรการเท่านั้น

เมื่อถูกถามอีกว่า หลายฝ่ายอยากให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่แต่ไม่อยากให้ กกต.ชุดนี้ดำเนินการ พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ได้ แต่ถึงอย่างไร กกต.ชุดนี้ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ผมเป็นแค่เจ้าหน้าที่ธุรการ ต้องไปถาม กกต.ทั้ง 4 ท่านเอง

ส่วนกรณีหากศาลสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เรื่องร้องเรียนที่ กกต. ส่งให้ศาลพิจารณาโดยเฉพาะเรื่องการฉีกบัตรเลือกตั้งนั้น พล.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า ก็ต้องแล้วแต่ศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร สำหรับกรณีที่ศาลสั่งจำคุกไปแล้วตามหลักกฎหมายก็ไปย้อนหลังไม่ได้ แต่ก็สามารถอุทธรณ์ได้ ภายใน 30 วันนับจากที่ศาลมีคำสั่ง

ด้านนายปริญญา นาคฉัตรีย์ กล่าวถึงการประกาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักไทย ว่า กกต.ต้องประกาศไปก่อนเพราะครบ 30 วันแล้ว ส่วนกรณีการพิจารณาการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ยังดำเนินต่อไปไม่ได้ยก เพราะยังสามารถสอยได้ภายใน 1 ปี แต่หากศาลสั่งให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.เป็นโมฆะ ก็จะทำให้คดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งต้องหมดไป ส่วนที่เป็นคดีความทางอาญาก็ว่ากันต่อไป

ปชป.อัด กกต.ดื้อตาใสรับรองผลเลือกตั้ง

นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กกต.ถือว่าหมดความชอบธรรม ซึ่งอยากเรียกว่า กกต.ดื้อตาใส เพราะการเลือกตั้งครั้งล่าสุดมีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากมายแต่ไม่มีการสอบสวน หรือมีการให้ใบแดงใบเหลืองผู้ใด จุดประสงค์เพื่อให้มีการับรองให้เสร็จแบบขอไปทีรวมทั้งเรื่องการสอบสวนการจ้างผู้สมัครพรรคเล็กพรรคน้อยลงสมัครรับเลือกตั้งที่คณะอนุกรรมการได้สรุปเรื่องเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ กกต.ประชุมให้ความเห็นก็เสร็จสิ้น แต่กกต.ก็ไม่ทำหน้าที่

นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้มีรายงานข่าวออกมาว่า กกต.กำลังตรวจสอบคำร้องของพรรคประชาธิปัตย์ที่ร้องเข้าไปและมีธงนำออกมาว่าจะมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็อยากถามว่ารายงานข่าวที่ออกมามีความจริงแค่ไหน และเรื่องที่ร้องไปขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใด ทำไมไม่ตัดสินออกมาให้ชัดเจน