ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองอื่นนั้น เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
พรรคพลังประชาชนจัดงาน “กู้วิกฤติเศรษฐกิจชาติ เพิ่มรายได้ให้ ประชาชนอย่างเร่งด่วน” เพื่อนำเสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจ โดยนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค กล่าวเปิดงานว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2549 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัส 4 ข้อคือ 1. ไม่เอามาตรา 7 2. เรื่อง 30 วันที่เถียงกันจะเป็นจะตาย ให้ไปดูว่าถูกต้องหรือไม่ 3. ให้ดูว่าพรรคเดียวสู้กับ 20 เปอร์เซ็นต์เป็นประชาธิปไตยหรือไม่ 4. ชาติล่มจมเมื่อไหร่ถึงต้องมากู้ชาติ หมายความว่าชาติยังไม่ได้ล่มจม ไม่จำเป็นต้องมีพวกคาดหัวมากู้ชาติ สำหรับคนใหญ่คนโตในบ้านเมืองที่ใกล้ชิดกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวชอบเอารับสั่งมาแปลความเหยียบย่ำคนอื่น พอมาถึงวันที่ 26 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่าเวลาที่ผ่านมาบ้านเมืองจะล่มจมอยู่แล้ว แสดงให้เห็นว่าบ้านเมืองถึงเวลาที่จะต้องแก้ปัญหาแล้ว และที่ทรงรับสั่งว่าคดีความที่ฟ้องร้องให้ผู้พิพากษาทั้ง 2 ศาลไปดูให้ดี แต่ไม่ว่าจะตัดสินทางไหนก็เสียหายทั้งนั้น ตรงนี้คนฟังเมื่อฟังแล้วจะต้องยกฟ้อง แล้วก็ให้สู้กันทางการเมือง
นายสมัครกล่าวว่า ส่วนกรณีการทำโพลของ กอ.รมน. และตำรวจสันติบาลนั้น พรรคไม่ได้รู้สึกยินดีกับผลสำรวจโพลเหล่านี้ เดือดร้อนด้วยซ้ำ
ส่วนเรื่องศูนย์ นวัตกรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำไว้ กำลังไปได้ดี ต่างชาติให้ความสนใจ เข้ามาศึกษาเป็นแบบอย่าง แต่คณะปฏิวัติกลับจะมายุบทิ้ง นอกจากนี้เมื่อคืนนี้มีคนโทรศัพท์มาบอกว่า เอกสารลับมติ 4 ต่อ 3 เสียง โดยมติ 4 เสียงบอกว่าไม่เป็นกลางทางการเมือง เมื่อเห็นข่าวแล้วก็รู้สึกพอใจ คงจะไม่ไปฟ้องร้องต่ออีก ได้แค่นี้ก็พอใจแล้วที่พรรคไม่ถูกยุบ ส่วน ผบ.ทบ.คนใหม่ ตนเฝ้าดูอยู่ เป็นคนใช้ได้ พูดจาดี โดยเฉพาะที่พูดว่าถ้าพรรคพลังประชาชนได้เป็นรัฐบาลจะไม่ปฏิวัติ ถึงจะถูกย้ายก็จะไม่ปฏิวัติ นานๆจะเจอคนแบบนี้ที ขอถือโอกาสนี้ขอบคุณ ผบ.ทบ.คนใหม่ไว้ด้วย