อนุพงษ์ยันชัด ไม่ยึดอํานาจ

ที่หอประชุมกองทัพ บกพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.

กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการพบปะบรรณาธิการข่าวและคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ว่า การพบครั้งนี้มีเจตนาเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน กองทัพบกเป็นกลไกของรัฐที่ปฏิบัติงานในหลายมิติ สื่อมวลชนเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความรู้ความเข้าใจต่อสังคม รวมถึงตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของผู้ใช้อำนาจรัฐ ทหารต้องมีอุดมการณ์ มีคุณธรรมจริยธรรม บริบทของสัง คมทำให้คนไม่มีอุดมการณ์ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เช่นกรณีเอกสารลับ คมช. ที่รั่วไหลออกไปเพราะจิตใจคนที่เปลี่ยนแปลง เห็นแก่ ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่ากองทัพ

ลั่นไม่ต้องการเข้าไปใช้อำนาจรัฐ

“ผมไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมือง หรืออยากเข้าไปใช้อำนาจรัฐซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของทหาร หน้าที่ทหารคือปกป้องประเทศยามสงคราม ส่วนยามปกติเรามีหน้าที่ดูความมั่นคงภายใน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาและการช่วยเหลือประชาชน เราไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์และการอยากได้อำนาจรัฐ เท่านี้ผมถือว่าเป็นทหารของชาติ คำว่าทหารประชาธิปไตยเป็นอย่างไร ผมไม่ทราบ แต่ผมเป็นอย่างนี้ ไม่อยากเป็นผู้มีอิทธิพล ไม่อยากเป็นส่วนของผู้ใช้อำนาจรัฐทางการเมือง ผมเป็นผู้ปฏิบัติ” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว

ย้ำทหารเป็นกลางทางการเมือง

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ทหารจะมีส่วนอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า จะไปเลือกตั้งแน่นอน ไปรอหน้าคูหาได้เลย ทหารจะเข้าไปยุ่งในการเลือกตั้งไม่ได้ การเมืองเมืองไทยไม่ได้เป็นอย่างที่การเมืองทั่วโลกเขาเป็นกัน ไม่เหมือนสหรัฐฯ และไม่เหมือนสักประเทศหนึ่ง ทุกอย่างเข้าไปเพื่อให้ได้อำนาจรัฐมาไม่สมควร ในฐานะที่ตนเป็นผู้นำกองทัพขออยู่เป็นกลางและดูลูกน้องไม่ให้ เข้าไปยุ่งเกี่ยวก็ยากแล้ว เมื่อถามว่า รู้สึกแปลกใจหรือไม่ ที่หลัง 19 กันยายน 2549 กลุ่มที่ถูกปฏิวัติยังมีความนิยมสูงประเมินว่ากองทัพทำผิดพลาดอะไร พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า ไม่ผิดพลาดเลย แต่สังคมผิดเพี้ยน

เลิกพูดได้เรื่องปฏิวัติไม่มีแน่

เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ครบ 3 ปีหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า “ไม่ต้องห่วง ผมไม่ห่วงตนเอง คนอื่นอย่าเป็นทุกข์ อย่าวิตก สบายใจ เป็นวันเดียวก็ถือว่าเป็นแล้ว สบาย ด้วยความจริงใจคนนี้พร้อมรับด้วยความจริงใจสบายมาก ไม่ทุกข์เลย หากมีคนเก่งกว่าดีกว่าก็ชอบแล้วให้เขาทำ ผมเป็นคนอย่างนั้น หากกลไกไม่เป็นตามนั้นแล้วได้รับความไม่ เที่ยงธรรมก็ปล่อยให้จบไป ไม่ไปโวยวาย หากสังคมเป็นอย่างนั้น จะให้ผมทำอย่างไร” เมื่อถามว่า เป็นคนที่ร่วมปฏิวัติมาแล้วเมื่อมีรัฐบาลใหม่หากจะโดนย้ายจะอยู่เฉยให้เขาย้ายเหรอ พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า “บอกได้เลยว่าอยู่เฉยๆแน่นอน หากทำได้ก็ให้เขาทำ ผมก็อยู่ โอเคจบจะให้ไปทำอะไร ปฏิวัติอีกทีเหรอ เพื่อตนเองเหรอ โธ่ อย่างแรก ผมสั่งใครก็ไม่ไป สอง ทำได้ท่านและสังคมก็ไม่ยอม อยู่เฉยๆสง่ากว่า ปลดก็ปลดไป สมาร์ทดี ทำไมต้องไปทุกข์ คิดได้ไงว่า หากเขามาย้ายผม แล้วจะปฏิวัติ งี่เง่าที่สุดในโลก”