เมื่อวันที่ 28 พ.ย. แพทยสภาได้เชิญตัวแทนพรรคการเมือง ร่วมอภิปราย
"นโยบายด้านการแพทย์และสาธารณสุขของพรรคการเมือง" โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคชูวาระประชาชนและนโยบายทางด้านสุขภาพเป็น 1 ใน 4 วาระหลักในการทำงาน ความตั้งใจสูงสุดคือทำให้ประชาชนเจ็บป่วยน้อยลง ทำงานเชิงรุกทางด้านสาธารณสุขมากขึ้น ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยังต้องมี แต่ต้องบริหารจัดการทรัพยากรให้เพียงพอ ตนเคยเสนอรัฐบาลชุดก่อนว่างบประมาณรายหัวที่ใช้จ่ายในโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไม่เพียงพอ เพิ่งจะเพียงพอในรัฐบาลชุดนี้ 2,100 บาท ส่วนระบบประกันสังคมต้องเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนมากกว่านี้ การบริหารงานของสำนักงานกองทุนประกันสังคมต้องเป็นอิสระโปร่งใสโดยเฉพาะการรักษาพยาบาล ขณะนี้สิทธิยังเป็นเฉพาะตัวผู้ประกันตน ในอนาคตเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเพิ่มบุคคลอีก 1 คนหรือคนในครอบครัวเข้าไปร่วมอยู่ในระบบประกันสังคมด้วย จะได้แบ่งเบาภาระของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า โครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผ่านมา 6 ปีเต็ม แต่ยังมีหลายเรื่องต้องพัฒนาต่อไป เช่น วิธีการร่วมจ่าย ถือเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อลดการใช้บริการโดยไม่จำเป็น เพราะคนเห็นว่าเป็นของฟรีจึงไม่เห็นคุณค่า ต้องเก็บตัวเลขว่าภายหลังจากยกเลิกเก็บค่าธรรมเนียม 30 บาทแล้วมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพื่อวิเคราะห์ให้ชัด กรณีผู้ประกันตนที่จ่ายเงินในประกันสังคม แต่เมื่อเจ็บป่วยก็ไปจ่ายเงินเอง หรือซื้อประกันสุขภาพจากบริษัทประกันเอกชนเท่ากับว่าเงินที่จ่ายไปก็ไม่มีประโยชน์นั้น ขอเสนอให้นำเงินประกันสังคมที่แรงงานจ่ายทุกเดือนเป็นฐานต่อยอดในการจ่ายเบี้ยประกันของบริษัทเอกชน เช่น จ่ายประกันสังคมปีละ 2,000 บาทและต้องไปซื้อเบี้ยประกันจากบริษัทเอกชนปีละ 5 พันบาท ก็ไม่ต้องจ่ายครบ จ่ายเพียง 3,000 บาทเท่านั้น