นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย
พร้อมนายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ น.ส.สุภาพร แสงทอง และนายอายุทธ์ จิรชัยประวิทย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 2 ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณตลาดคลองเตย โดยไม่มีแกนนำผู้สมัคร ส.ส.กทม.คนอื่นๆมาร่วมการหาเสียง ก่อนหน้านี้มีข่าวการกระทบกระทั่งกันระหว่างนายประชัยกับผู้สมัคร ส.ส.กทม. โดยผู้สมัคร ส.ส.กทม.ต้องการให้นายประชัยปราศรัยน้อยลง เนื่องจากส่งผลกระทบกับการหาเสียงของพรรค จนนายประชัยตำหนิ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.คนนั้นว่าเป็นคนที่เข้ามาทำลายพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยนายประชัยกล่าวถึงความขัดแย้งกับผู้สมัคร ส.ส.กทม.ว่า ลิ้นกับฟันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันตลอดเวลา เรื่องที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.อยากให้ลดการ ปราศรัยนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคมัชฌิมาธิปไตยมีมานาน ทำไมยังไม่ลงตัว
นายประชัยกล่าวว่า มันก็เป็นของมันอย่างนี้ แต่ก็เดินไปได้เรื่อยๆ ไม่เป็นปัญหา นายประชัยกล่าวถึงกระแสข่าวการรวมขั้วทางการเมืองของพรรคพลังประชาชนชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ประกาศสลายขั้วเดิมกับพรรคประชาธิปัตย์แล้วว่า นายบรรหารไม่เกี่ยวกับตน เพราะอยู่คนละพรรค เรื่องอย่างนี้ ยังไม่อยากพูด เพราะเห็นว่าช่วงนี้การหาเสียงสำคัญกว่า
ประชัย ชี้ปัญหาในพรรคยังมีเรื่อยๆ
จี้ กกต.เล่นงานคนทำโพลการเมือง
นายประชัยกล่าวถึงโพลสันติบาลที่ระบุว่า พรรคมัชฌิมาธิปไตยจะได้รับการเลือกตั้งเพียง 17 คน และในระบบสัดส่วนกลุ่ม 6 ที่นายประชัยลงสมัครจะไม่ได้รับการเลือกว่า เคยพูดไปแล้วว่าโพลนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับการเลือกตั้ง เพราะมีส่วนในการชี้นำประชาชน เนื่องจากโพลเป็นการโฆษณา องค์กรที่จะไปทำโพลนั้นจะต้องได้รับเงินสนับสนุน ผลก็จะออกมาเข้าข้างผู้ที่ให้ การสนับสนุน หรือออกมาให้เป็นประโยชน์กับเถ้าแก่ที่เป็นผู้จ่ายเงิน ความเป็นจริงโพลต้องอิสระ แต่การทำโพลต้องใช้เงิน ผู้ที่จะออกไปสำรวจความเห็นประชาชน ต้องได้รับค่าจ้างและเบี้ยเลี้ยง ก็ต้องมีผู้สนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นของพวกเอแบคโพล หรือแม้กระทั่งของสันติบาลก็ต้องได้รับเบี้ยเลี้ยง กกต.น่าจะจัดการเรื่องนี้ เพราะเข้าข่าย การโฆษณา คนที่จ่ายเงินให้ทำโพลก็คือเจ้าของโพล จึงเท่ากับว่าคนที่จ่ายเงินเป็นเจ้าของโฆษณา
“ตำรวจออกไปทำโพลก็ต้องได้รับเบี้ยเลี้ยง เราต้องมองให้ลึกว่าใครเป็นคนออกเงินให้ไปทำโพล คนคนนั้นก็คือเจ้าของโฆษณา มันผิดกฎหมาย สำหรับโพลของพรรคมัชฌิมาธิปไตยก็มีอยู่ แต่ทำกันเป็นการภายใน เอาไว้ประเมินของเราเอง เนื่องจากพวกเราเคารพกฎหมายก็ไม่เอาออกมาเปิดเผย แต่บอกได้ว่าแตกต่างกับผลโพลของสันติบาลคนละเรื่องเลย” นายประชัยกล่าว