"อภิสิทธิ์"ลั่นไม่ขายรัฐวิสาหกิจ-สื่อต้องเป็นของประชาชน
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศวาระประชาชนเน้นเศรษฐกิจคุณภาพ เน้นให้กลไกของรัฐ-สื่อเป็นของประชาชนไม่ใช่ของรัฐบาล ระบุ ไม่มีนโยบายขายรัฐวิสาหกิจ ขายสมบัติของชาติ
วันนี้(29 เมษายน) เวลา 11.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีที่โรงแรมดิเอมเมอรัล โดยใช้ชื่อว่า "วาระประชาชนทิศทางอนาคตประเทศไทย" โดยแกนนำพรรค สมาชิกพรรค และตัวแทนทูตานุทูตในประเทศไทยหลายประเทศเข้าร่วม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโดยเริ่มจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ตอนนี้ส่วนใหญ่วิตกกับภาวะข้างของแพง เป็นทุกข์กับภาวะหนี้สินที่สั่งสมมาอย่างต่อเนื่อง ฐานะการคลังที่มีข่าวร้ายว่ามีการจ่ายเงินกับผุ้รับเหมา พนักงานลูกจ้างล่าช้า สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ยุติ ซึ่งทุกปัญหามีการเชื่อมโยงกับการแก้ปัญหาที่ผิดพลาดเกี่ยวข้องผู้กำหนดนโยบายที่มีผลประโยชน์แอบแฝง
นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสเข้าไปกำหนดนโยบายจะยึดประโยชน์ของประชา ชนเต็มร้อย และจำเป็นต้องแก้ไขสิ่งที่มีการกำหนดนโยบายในปัจจุบัน โดยจะผลักดันนโนยบายที่เป็นวาระประชาชน โดยได้ยกตัวอย่างกรณีการแปรรูปรัฐวิสาหกิจกฟผ.และปตท.และย้ำว่าต่อไปพรรคประชาธิปัตย์จะไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจที่เป็นกิจการสาธารณูปโภค แต่จะส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดการแข่งขันให้เกิดประโยชน์กับประชาชน
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในการทำเอทีเอกับต่างประเทศทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างมาก และว่าการดำเนินนโยบายพรรคประชาธิปัตย์จะไม่แก้หนี้สินโดยการเพิ่มหนี้สินจะต้องสร้างเศรษฐกิจคุณภาพเน้นการผลิตที่แท้จริง
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังย้ำว่าจะปรับปรุงนโยบายประชานิยมให้สนองตอบต่อประชาชนอย่างแท้จริงไม่ใช่สนองนโยบายของผู้นำ ไม่ว่าจะเป็น 30 บาทรักษาทุกโรค โดยจะสนับสนุนโครงการประกันสังคมให้ครอบคลุมไปถึงคนในครอบครัวเพื่อลดภาระของกองทุน 30 บาท ทำให้เกิดคุณภาพในการรักษามากขึ้น
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า จะมีการปรับปรุงเงินกองทุนหมู่บ้านเพื่อให้เกิดการลงทุนเพื่ออาชีพอย่างแท้จริง จะมีการส่งเสริมกองทุนเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อรากหญ้าอย่างแท้จริง
ในตอนท้ายเขายังย้ำว่า หากเข้าไปเป็นผู้บบริหารประเทศจะไม่มีนายกฯคนเหนือ นายกฯคนเหนือคนใต้ หรือนายกฯกรุงเทพฯแต่จะเป็นนายกฯของประเทศไทย จะเปิดกว้างให้มีการแสดงความเห็นที่แตกต่าง การอุ้มฆ่าตัดตอนจะต้องหมดไปกับรัฐบาลนี้ รวมทั้งย้ำว่ากลไกของรัฐหรือสื่อจะต้องเป็นของประชาชนไม่ใช่ของรัฐบาล