อย่าใช้ราคาพลังงานหาเสียง

'ปิยสวัสดิ์' เหน็บนักการเมือง ยันพร้อมลดเงินเข้ากองทุน



รัฐมนตรีพลังงานเหลืออด ออกโรงเตือนนักการเมืองอย่าใช้ราคาน้ำมันหาเสียง เหน็บเป็นมืออาชีพต้องแยกน้ำมันออกจากการเมือง แย้มรับลดเงินกองทุนให้ดีเซลได้อีกครั้งไม่เกิน 20 ส.ต. กันดีเซลแตะ 30 บาทต่อลิตร

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า กระทรวงพลังงานติตตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด การจะลดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ จะต้องให้เหมาะสมที่สุด โดยหากจะปรับลดก็คงจะทำได้อีกประมาณ 1 ครั้งเพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้หนี้ของกองทุนฯ ที่ยังมีหนี้เหลืออยู่ 2,300 ล้านบาท และลดในส่วนของดีเซล เพราะค่าการตลาดน้ำมันของผู้ค้าน้ำมันยังต่ำ เข้าใกล้ระดับศูนย์ ส่วนค่าการตลาดของน้ำมันเบนซินอยู่ในระดับพอใช้

"ผมไม่ได้พูดว่าจะไม่ลดเงินกองทุนอีก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ กองทุนน้ำมันมีไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ที่สำคัญ นักการเมืองจึงไม่ควรใช้เรื่องกองทุนน้ำมัน หรือราคาพลังงานในการหาเสียง นักการเมืองที่เป็นมืออาชีพอยู่ในแวดวงการเมืองและแวดวงธุรกิจมานาน จะแยกเรื่องน้ำมัน กับการเมืองออกจากกัน เช่นในสมัย พล.อ.ชาติชาย (ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี) ก็เข้าใจเรื่องนี้ดี" นายปิยสวัสดิ์กล่าว

นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า ในช่วงภาวะราคาน้ำมันแพงนี้ทำให้คนหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) มากขึ้น

 
ยอดขายในปั๊มจึงเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทำให้มีปัญหาเรื่องปั๊มเอ็นจีวีไม่เพียงพอ ปัญหาการขนส่ง และการปรับเปลี่ยนรถไม่ทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ปัญหานี้กระทรวงพลังงานกำลังเร่งรัดแก้ไข คาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้จะแก้ไขได้ ส่วนปัญหาการปรับเปลี่ยนรถไม่ทันนั้น กระทรวงได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานผลิตบุคลากรไปอบรมและสอนช่างตามต่างจังหวัด ให้มีความชำนาญในการติดตั้งเอ็นจีวีได้ เพื่อรองรับความต้องการที่มีทั่วประเทศ ตั้งเป้าผลิตวิทยากรไปฝึกอบรมให้ได้ 150 คน ภายในปี 2551

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้มีหลายกระทรวงเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยเฉพาะราคาดีเซลว่าจะทะลุ 30 บาทต่อลิตร เพราะผู้ประกอบการจะใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นราคาสินค้าและค่าขนส่ง จึงขอให้กระทรวงพลังงาน ปรับลดเงินเข้ากองทุนอีก แม้ว่าจะมีผลต่อราคาน้ำมันน้อย แต่ก็มีผลต่อจิตวิทยา โดยหากจะปรับลดอีกก็คงปรับลดได้ประมาณ 20 สตางค์ต่อลิตร เพราะจะมีผลกระทบกับแผนการชำระหนี้ของกองทุนฯ

นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างการจัดทำประเภทของน้ำมัน พร้อมกับตั้งชื่อใหม่ เพื่อประกาศใช้ในช่วงต้นปี 2551 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีน้ำมันชนิดใหม่ออกมาหลายตัว อาจจะสร้างความสับสนให้ประชาชนได้ เบื้องต้นในเดือนมกราคม จะมีน้ำมันทั้งหมด 8 ชนิด ประกอบด้วย เบนซิน 95, เบนซิน 91, อี10/95 (แก๊สโซฮอล์ 95), อี 10/91 (แก๊สโซฮอล์ 91), อี 20 (เบนซินผสมเอทานอล 20%), ดีเซล, บี 2 (ดีเซลผสมไบโอดีเซล 2%) และ บี 5 (ดีเซลผสมไบโอดีเซล 5%) แต่ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป จะเหลือน้ำมัน 7 ชนิด เนื่องจากจะบังคับให้ขายบี 2 แทนดีเซลทั้งหมด

"ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ว่า จะมีการเติมคำว่า เบนซิน และดีเซล หน้าชื่อน้ำมันแต่ละชนิดหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพิจารณา คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ววันนี้ หลังจากนั้นก็จะประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชน" นายเมตตากล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์