เมื่อวันที่ 25 พ.ย. เวลา 09.00 น. ที่วัดสวนแก้ว พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว
ได้จัดเสวนาวาระพิเศษหัวข้อ “การเมืองเรื่องศีลธรรม” โดยเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน มาร่วมเสวนาด้วย ทั้งนี้ ทางวัดได้จัดให้ นายอภิสิทธิ์พูดในช่วงเช้า และนายสมัครพูดช่วงบ่าย โดยในช่วงเช้ามีประชาชนประมาณ 600 คน มาร่วมฟัง นายอภิสิทธิ์ได้พูดถึงนโยบายที่ใช้รณรงค์หาเสียง โดย เฉพาะนโยบายเร่งด่วน วาระ 99 วัน ขณะเดียวกัน ในช่วงท้ายการพูดนายอภิสิทธิ์ได้ฝากถึงนายสมัครว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้ควรเสนอทางเลือกให้ประชาชนตัดสินใจ ควรนั่งหารือกันแลกเปลี่ยนความเห็นกัน อย่าว่ากล่าวหรือใส่ร้ายป้ายสีกัน มาแข่งกันทำประโยชน์ มาทำการเมืองบริสุทธิ์ ไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง”
ชี้ “อภิสิทธิ์” ควรรอเวลาเพื่อเป็นใหญ่วันหน้า
จากนั้นในช่วงประมาณเวลา 13.30 น. นายสมัครได้มาร่วมเสวนาโดยมีประชาชนทยอยมาฟังกันมากขึ้นกว่า 1,500 คน ทั้งนี้ นายสมัครได้กล่าวถึงนโยบายจราจร การแก้ปัญหาสังคม หากได้เป็นรัฐบาลจะออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 11 ขวบ ดื่มเหล้า และเห็นด้วยที่จะให้พระได้เทศนาธรรมก่อนที่จะมีการออกหวยครึ่งชั่วโมง ตามข้อเสนอของพระพยอม ในตอนท้ายนาสมัครได้ฝากถึงนายอภิสิทธิ์ว่า “เหตุที่ไม่ดีเบต ไม่ขึ้นเวทีพร้อมกันไม่ใช่เพราะไม่หล่อ แต่เห็นว่าการเมืองในภาวะเช่นนี้ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เพราะคนละความคิด หากเผชิญหน้าอาจทะเลาะต่อว่ากัน เพราะต้องชี้ว่าให้เลือกระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ผมเคยสวมบทอะแซหวุ่นกี้ทำนายชะตานายอภิสิทธิ์ว่า เหมือนพระยาจักรีจะได้เป็นใหญ่ในบ้านเมือง ขอให้รักษาตัวให้ดี แต่วันนี้มาแข่งกับผม ชี้หน้าด่าผมว่ายาหมดอายุ ก็เลยบอกกลับไปว่ายาหมดอายุ อย่างน้อยก็เคยเป็นยาดีมาก่อน ไม่เหมือนมะม่วงจำบ่ม หรือบ่มด้วยแก๊ส ชิงสุกก่อนห่าม”
“สมัคร” ลั่นลาบวชหลังจบภารกิจ พปช.
นายสมัครกล่าวต่อว่า ตนมีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนฝักใฝ่ในศีลธรรม และคุณธรรม และใกล้ชิดพระพุทธศาสนามาตลอดชีวิต และหากได้รับเลือกเป็นเสียงข้างมาก ก็มีสิทธิที่จะจัดตั้งรัฐบาล ส่วนฝ่ายแพ้ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน ส่วนนายบรรหารจะดำเนินการการเมืองอย่างไรก็ขอให้เป็นหลังเลือกตั้ง ถ้าหากพลังประชาชนได้ 230 เสียง ก็จะถามว่า จะมากับเราหรือไม่ เพราะไปทางนั้นเขาก็ไม่ให้เป็นนายกฯ แต่ว่ามาทางตนก็ไม่ให้เป็นเหมือนกัน เพียงแต่เคยทำงานด้วยกันมา อยู่ด้วยกันน่าจะสบายใจกว่า วันนี้ต้องพูดให้ชัดเดี๋ยวจะเกิดความสับสน “หลังจากจบภารกิจถือธงนำพรรคพลังประชาชนแล้ว ผมอาจจะตัดสินใจบวชสักครั้งหนึ่งก่อน เพราะอยู่มาถึงทุกวันนี้แล้วไม่เคยบวช”