กกต.ยังสรุปปาร์ตี้ลิสต์ไม่ได้ จารุภัทร-วาสนาเตรียมเผ่น

โดย ผู้จัดการรายวัน 29 เมษายน 2549 12:22 น.

กกต.ยังไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องการรับรองส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ อ้างทรท.แจ้งการลาออกของ"พระเปรมศักดิ์"หลังการเลือกตั้งไปแล้ว ยันกกต.พร้อมจัดเลือกตั้งใหม่หากศาลสั่งโมฆะ ด้าน"จารุภัทร-วาสนา"เตรียมไขก๊อก

เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต.กล่าวภายหลังการประชุม ถึงการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อว่า ขณะนี้ยังเป็นที่ถกเถียงไม่ยุติว่า กกต.จะรับรองรายชื่อ ส.ส.99 คน หรือ 100 คน เนื่องจากยังมีปัญหาทาง กฎหมายว่า ในวันประกาศรับรองผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อนั้นมีครบ 100 คน แต่หลังจากการเลือกตั้งผ่านไป ในวันที่ 7 เม.ย. พรรคไทยรักไทยจึงได้ทำหนังสือแจ้งเรื่องการลาออกของ น.พ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ รวมทั้งเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา และมีการคำนวณส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทยได้ผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ฉะนั้น กรณีนี้ยังเป็นปัญหาทางด้านเทคนิคที่ยังไม่ได้ข้อยุติ

นายปริญญา ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กกต.ยึดกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งคำสั่งระงับของศาลปกครอง ก็ไม่ได้บอกว่า กกต.ทำผิดเพียงแต่มีคนมาร้องว่าการจัดการเลือกตั้งอาจไม่ชอบเท่านั้น เมื่อถามว่า มองว่าการเลือกตั้งทำให้เกิดวิกฤติทางการเมืองเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายปริญญา กล่าวย้ำว่า กกต.ทำตามกติกาและกฎหมาย สื่อและสังคมก็รู้ดีว่าวิกฤติเกิดขึ้นมาจากใคร และเพราะอะไร

ส่วนที่มีข่าวว่า กกต.บางคนท้อใจและเตรียมจะลาออกเพราะปัญหาการเลือกตั้ง นายปริญญา กล่าวว่า ส่วนตนไม่เคยคิดท้อใจ แต่กกต.คนอื่นๆนั้นไม่ทราบ และตนอยากบอกว่า กกต.ทุกคนว่าไม่ควรคิดลาออก เนื่องจากเหตุการณ์ขณะนี้วุ่นวายมาก สภายังไม่ครบ ถ้ามีเลือกตั้งอีกก็จัดไม่ได้ และส.ว.ที่เลือกตั้งแล้วก็ประกาศรับรองผลไม่ได้ ดังนั้นขอวิงวอนว่าอย่าพึ่งถอดใจ เพราะมีกันอยู่ 4 คนเท่านั้น ที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำผิดอะไร แต่เมื่อศาลมีคำสั่งออกมา แม้กกต.จะมีอำนาจในการจัดการเลือกตั้ง เราก็ต้องเชื่อศาล รวมทั้งที่ผ่านมาตนยังไม่เคยได้ยินกกต.คนใดพูดออกมาว่าจะลาออก

"ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายคนมองข้ามผู้ที่ร่างรัฐธรรมนูญ ที่อาจจะคิดไม่ถึงกับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้ให้ทางออกไว้หากได้ไม่ครบ 100 คน เหมือนคนตัดเสื้อไปให้อีกคนหนึ่งใส่ หากใส่ไม่สวยทุกคนก็โทษคนใส่เองว่าไม่สวยไม่หล่อ ไม่เคยโทษช่างตัดเสื้อเลยว่าไม่ดี"

**จารุภัทร-วาสนาเตรียมไขก๊อก

มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งระงับการเลือกตั้งใน 14 เขต 9 จังหวัด ก็เกิดกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องว่า กกต.เตรียมที่จะพิจารณาตัวเองโดยการลาออก โดยเฉพาะ พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ ที่แหล่งข่าวระบุว่า ได้มีการพูดคุยกับคนใกล้ชิด และหารือกับผู้ใหญ่ที่นับถือหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัส ว่า ตนเคยเป็นทหารราชองค์รักษ์ ดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยามา การที่ในหลวงรับสั่งเช่นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และอยากแสดงความรับผิดชอบ แต่ทั้งนี้ ก็มีผู้ใหญ่บางคนแนะนำว่า การลาออกก็ไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหา และอาจจะทำให้เกิดความวุ่นวายมากยิ่งขึ้น เพราะ กกต.ที่เหลือไม่สามารถทำงานได้ จึงทำให้พล.อ.จารุภัทร ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะลาออกหรือไม่

ขณะที่พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ก็เคยปรารภกับเจ้าหน้าที่ กกต.ในที่ประชุมหลายครั้งว่า "เมื่อจัดการเลือกตั้งเสร็จแล้วก็ให้พวกท่านอยู่กันไปเถอะ ผมจะไม่อยู่แล้ว" นอกจากนี้ในการประชุมกับพวกองค์กรเอกชนพล.ต.อ.วาสนา ก็ยังพูดอยู่เสมอว่า คงจะอยู่ไม่ครบวาระ อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามที่จะติดต่อสอบถามเรื่องดังกล่าวกับพล.อ.จารุภัทร ทางโทรศัพท์ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายปริญญา กล่าวว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา กกต.ได้หารือกับพรรคการเมืองที่ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วว่า ถ้าเลื่อนวันเลือกตั้งจะส่งหรือไม่ แต่ก็ได้รับการยืนยันว่าเลื่อนออกไปก็ไม่ส่ง จึงไม่ใช่สาเหตุที่ต้องเลื่อนการเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อมีพระราชดำรัสออกมาว่า การลงสมัครเลือกตั้งพรรคเดียวไม่เป็นไปตามประชาธิปไตย จะเห็นว่า หลายพรรคการเมืองมีการตื่นตัว โดยเฉพาะทางภาคใต้มีผู้สมัครลงเลือกตั้งจากเดิม 2 พรรค เป็น 5-6 พรรค ซึ่งพรรคเหล่านั้นถึงจะเป็นพรรคเล็กแต่ก็ยึดในพระราชดำรัส และยึดประชาธิปไตย และที่อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้ง หากศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.และวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะนั้น ขอชมเชยที่แสดงท่าทีเปลี่ยนใจ

อย่างไรก็ตาม หากศาลมีคำสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ก็ไม่มีปัญหาอะไร กกต.ก็จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ เพราะทุกฝ่ายต้องการให้มีสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ กกต.จึงต้องทำตาม และเมื่อปฏิรูปการเมืองเสร็จ จึงจะยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม หากศาลมีคำวินิจฉัยอย่างไรกกต.ก็ยินดีรับฟัง เพราะเราทำงานร่วมกัน

สำหรับการพิจารณาคำร้องของพันธมิตรฯ กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง กกต.ได้พิจารณา แต่ก็ยังไม่สามารถแถลงได้ ก็ไม่ใช่ยื้อเวลา กกต.จะกลัวทำไม ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้กกต.กลัวอะไรไม่ได้อีกแล้ว เพราะถูกสังคมมองว่า กกต.ถูกมัดมือชก แต่เราก็ถือว่าเราได้อิงตามกฎหมาย ถ้าเราอิงกระแสวันหนึ่งอาจจะโดนฟ้องกลับ เพราะกระแสอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานกกต.บอกว่า เหลือพยานสอบเพิ่มอีก 1 ปาก นายปริญญา กล่าวว่า อาจจะใช่ รอแถลงอีกครั้งดีกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกันนี้ นางลีน่า จังจรรจา ผู้สมัครส.ว.กทม.ได้เดินทางมาประท้วงการทำงานของกกต.พร้อมตะโกนขับไล่กกต.ทั้ง 4 คนลาออก โดยนางลีน่า กล่าวว่า กกต.จะเดินหน้าประกาศรับรองส.ว.ในวันที่ 2 พ.ค.นี้ ทั้งที่มีการทุจริตการเลือกตั้งส.ว.และตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ให้มีคำสั่งคุ้มครองและเลื่อนการประกาศผลรับรองไปก่อน จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยในเรื่องนี้ออกมา ซึ่งสิ่งที่กกต.กำลังทำอยู่ เหมือนยอมเป็นเครื่องมือของพรรคการเมือง ต้องการให้มีสภาผัวเมียเข้ามาทำหน้าที่ในสภา

"กกต.หมดความชอบธรรม ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่กล้าแจกใบแดงให้กับนายสมัคร สุนทรเวช ว่าที่ส.ว.กทม.และนายกรัฐมนตรี ที่กระทำความผิดกม.เลือกตั้ง แต่กลับให้ใบแดงกับลีน่าคนเดียวในประเทศ กกต.รังแกผู้หญิงตัวเล็กที่ไม่มีพรรคการเมืองหนุนหลัง เพราะฉะนั้น กกต.ทั้ง 4 คนต้องลาออกไป ถ้าไม่ออกลีน่าจะมาไล่ทุกวันจนกว่าจะออก" นางลีน่า กล่าว