เติ้งลั่นเป็นมิตรกับทุกพรรค ยืนยันพันธมิตรปชป.เป็นอดีต

"บรรหาร" ประกาศเป็นมิตรกับทุกพรรคการเมือง ระบุ
 
เคยเป็นพันธมิตรพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นอดีตไปแล้ว ด้านกกต. ส่งทีมงานลงพื้นที่จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจสอบเงินพิรุธทุจริตการเลือกตั้ง

(23พย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคพรรคชาติไทย ได้กล่าวปราศรัยกับประชาชนที่ จ.กาฬสินธุ์ ว่า ตอนนี้เราจะเป็นมิตรกับทุกพรรคการเมือง ส่วนที่มีคนถามว่าจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ตอนนี้เรายังไม่ได้จับ เคยจับสมัยที่เคยเป็นฝ่ายค้าน ตอนนี้ทุกอย่างหมดพันธะต่อกัน หลังการเลือกตั้งค่อยว่ากันใหม่ เพราะการเล่นการเมืองต้องมีวินัย มีสัจจะ กตัญญู ไม่เช่นนั้นตนคงไม่ได้เป็นนายกฯ

ด้านนายสุเมธ อุปนิสากร เลขาธิการ กกต. กล่าวถึง

การให้ผู้สูงอายุสามารถจดหมายเลขผู้สมัครเข้าไปในคูหาเลือกตั้งว่า โดยหลักการแล้วกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่กำหนดว่าจะต้องไปกากบาทด้วยตัวเองเพื่อให้เป็นความลับ แต่การจดหมายเลขผู้สมัครเข้าไปมีข้อพึงระวัง คือ ถ้าคนอื่นจดให้ก็มีความหมิ่นเหม่ และถือเป็นสิ่งต้องห้าม เนื่องจากที่หน่วยเลือกตั้งไม่รู้ว่าใครเป็นใครที่ยื่นกระดาษให้ ดังนั้นต้องพึงระวังถ้าจำได้ก็ให้จำไว้ และโดยปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ บางหน่วยก็เป็นลูกเสืออาสา กกต. ซึ่งจะปลอดภัยกว่า
 

ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยว่า

จะมีการกระทำการเข้าข่ายทุจริตเลือกตั้งใร จ.นครราชสีมา นายสุเมธ กล่าวว่า ขณะนี้ทีมงาน กกต. 3 คนได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานที่ได้โดยประสานกับทางตำรวจ และกกต.จังหวัด ซึ่งที่ผู้ต้องสงสัยอ้างว่าเป็นค่ารถในการไปฟังปราศรัย ก็ต้องดูว่าเป็นการเตรียมการที่จะแจก และเพื่อจูงใจให้เลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งหรือไม่ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้พิสูจน์ได้จากพยานบุคคล ส่วนกรณีการจ่ายค่ารถเพื่อขนคนไปฟังการปราศรัยนั้น ถือเป็นค่าจ่ายของผู้สมัคร ซึ่งในตัวกฎหมายการจัดยานพาหนะ กฎหมายจะห้ามกรณีที่นำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังสถานที่เลือกตั้งแม้จะจัดไปฟรีก็ถือว่าผิด รวมไปถึงกรณีที่ให้เงินไปฟังปราศรัยก็หมิ่นเหม่เข้าข่ายลักษณะจูงใจให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิให้เลือกตัวเอง

ส่วนกรณีที่ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วน 37 คนที่ถูก กกต.เพิกถอนสิทธิ์บางส่วนจะไปยื่นเรื่องต่อศาลฎีกา แต่อีกส่วนที่ไม่ยื่นจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ได้มอบให้ทางสำนักกฎหมายและคดีไปวิเคราะห์ เพราะต้องดูว่าเข้าลักษณะกรณีที่ผู้สมัครยินยอมให้พรรคการเมืองที่เอ่ยชื่อว่าไม่มีสิทธิ์ไปสมัครหรือไม่ แต่บางท่านก็ไม่รู้ว่าสมัครเป็นสมาชิกพรรคนั้นกี่ปี อันนี้ต้องระวัง ซึ่งทางสำนักกฎหมายและคดีจะทำความเห็นเสนอมายัง กกต. และกกต.ก็จะมีมติว่าควรมีความเห็นอย่างไร