จาตุรนต์ ลุยยูเอ็นฟ้องถูกรังแก

จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติ กกต.ห้ามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จำนวน 111 คน ช่วยงานพรรคการเมืองนั้น

วันที่ 22 พ.ย. เมื่อเวลา 11.00 น. ที่องค์การสหประชาชาติ นายจาตุรนต์ ฉายแสง เดินทางมายื่นหนังสือต่อองค์กรสิทธิมนุษยชน เพื่อขอให้เข้ามาดูแลสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หลังจากที่ กกต.มีมติห้ามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยยุ่งเกี่ยวการเมืองทุกรูปแบบ โดยนายจาตุรนต์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการยื่นหนังสือว่า สาเหตุของการยื่นหนังสือครั้งนี้ เพราะถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพในการพูดและแสดงออก ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อประจานใคร หรือต้องการทำให้ประเทศไทยขายหน้า แต่เพื่อให้องค์กรระหว่างประเทศเข้าใจสถานการณ์ การเมือง และสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยดีขึ้น เชื่อว่าจะช่วยสื่อสารกับองค์กรรัฐในประเทศไทยได้ และจะเป็นผลดีต่อส่วนรวมของประเทศไทยในอนาคต เพราะองค์กรระหว่างประเทศ จะมีผลช่วยสื่อสารเรียกร้องหาหลักประกันให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว

นายจาตุรนต์กล่าวว่า การที่ กกต.ออกมาแสดงความเห็นด้วยกับการจำกัดสิทธิทางการเมืองดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้ไม่เข้าใจในความสำคัญของสิทธิเสรีภาพ

และที่มีการขู่ยุบพรรคนั้น ในความเป็นจริง พวกตนไม่มีสถานะใดในพรรค ดังนั้น การขู่ยุบพรรคเท่ากับเป็นการข่มขู่นักการเมือง พรรคการเมือง ส่วนกรณีที่ กทม.ไม่อนุญาตให้ใช้สวนลุมพินีเป็นสถานที่ปราศรัย โดยอ้างว่าไม่ใช่จุดที่ กกต.กำหนดให้จัดเวทีปราศรัยได้นั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องทางการเมืองมากกว่า การกำหนดจุดไม่ใช่เรื่องของ กทม. แต่เป็นเรื่องของ กกต.

อย่างไรก็ตาม ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า

ในวันที่ 25 พ.ย. จะมีการจัดพิธีสำคัญที่สวนลุมพินี จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปรักษาความปลอดภัยบริเวณดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. ดังนั้น เพื่อความสงบเรียบร้อย จึงขอให้เลื่อนการปราศรัยในวันที่ 23 พ.ย. ออกไป แต่การปราศรัยใน กทม.จะมีต่อไป และจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ รวมทั้งจะจัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกันในต่างจังหวัดช่วงปลายเดือน พ.ย.