กกต.เตือนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำลายบัตรมีโทษจำคุก-ถูกปรับ

ผอ.กกต.สงขลา เตือนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่าทำลายบัตร เหตุมีโทษทั้งจำคุกและถูกปรับ เผย ล่าสุดศาลสั่งลงโทษแล้ว 2 ราย และยังมีอีกหลายรายที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของอัยการและพนักงานสอบสวนอีก 8 ราย

(28เมาายน) นายไพฑูรย์ เจ๊ะแฮ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดสงขลา กล่าวฝากเตือนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สส.ในเขต 2 สงขลาในวันที่ 29 เมษายน 49 นี้ว่า อย่าได้ทำลายบัตรเลือกตั้งโดยเด็ดขาด เพราะจะเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายอาญา ซึ่งขณะนี้ศาลได้มีคำพิพากษลงโทษผู้ที่ฉีกบัตรแล้ว 2 ราย คือ นายอารัชฏ์ ทีวงศ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999 หมู่ 10 ต.เขาทราย อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ต.เขาทราย ได้ฉีกบัตรเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 15 ต.เขาทราย

ศาลได้อ่านคำพิพากษาตัดสินให้ นายอารัชฏ์ ทีวงศ์ จำเลย รับโทษจำคุก 2 เดือนไม่รอลงอาญา แต่จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 1 เดือน ไม่รอลงอาญา และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี โดยระบุว่าจำเลยจงใจ และเจตนาฉีกบัตรเลือกตั้ง ทั้งที่จำเลยมีตำแหน่งทางการเมืองและมีความรู้ มีการศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท และมีวุฒิภาวะ จึงพิจารณาให้มีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ. เลือกตั้งและ นายสุพจน์ กองแก้ว จ.นครนายก สั่งจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

อย่างไรก็ตาม จากการเลือกตั้ง ส.ส.สงขลา ที่ผ่านมา มีผู้กระทำผิดเลือกตั้งโดยการฉีกบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา จำนวน 8 ราย ซึ่ง กกต. ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ว่ากระทำผิดมาตรา 108 พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. ข้อหาจงใจทำลายบัตรเลือกตั้ง ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188 ฐานทำลายเอกสารในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 358 ฐานทำให้เสียทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ

เพราะฉะนั้น จึงอยากจะฝากเตือนประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 สงขลา ที่มีเจตนาบริสุทธิ์ในการที่จะร่วมพัฒนาประชาธิปไตย ก็อย่าได้กระทำความผิดในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดปัญหาในทางกฎหมายและปัญหาในเรื่องของการดำเนินคดี ซึ่งมันจะยืดเยื้อในเรื่องของขบวนการที่ต้องดำเนินการทางศาลต่อไป ส่วนในเรื่องของผู้ฉีกบัตรเลือกตั้ง 8 รายที่จังหวัดสงขลา ที่จงใจฉีกบัตรเลือกตั้งโดยเชิญสื่อมวลชนให้มาทำข่าวออกทางสื่อทุกแขนง เนื่องจากว่า ผู้ฉีกบัตรปฏิเสธข้อกล่าวหา จึงต้องดำเนินการตามขบวนการของกฎหมาย เพื่อนำไปสู่การพิพากษาของศาลต่อไป