เมื่อเวลา 16.30 น. นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน
นำทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 4 ออกเดินพบปะชาวบ้านที่บริเวณชุมชนตึกแดง เขตบางซื่อ ก่อนเปิดเวทีปราศรัยย่อย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ท่ามกลางประชาชนที่มารับการปราศรัยเพียงแค่ 200 กว่าคนเท่านั้น โดยเนื้อหาการปราศรัยส่วนใหญ่เป็นการโจมตีรัฐธรรมนูญ เยาะเย้ยถากถางหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และโอดครวญว่าพรรคพลังประชาชนถูกรุมเล่นงานอยู่ เพียงพรรคเดียว นายสมัครให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เคยประกาศจะไม่ดีเบตกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า มันไม่จำเป็นต้องไปต่อปากต่อคำ นายอภิสิทธิ์ควรถามตัวเองว่าทำไมต้องไปท้าคนอื่น ไม่แน่ใจตัวเองหรืออย่างไร แต่ตนแน่ใจตัวเอง ตอนลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ก็ไม่ไปดีเบตกับใคร แต่ได้มาล้านกว่าคะแนน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า
คนไทยไม่ควรยินยอมให้ผู้มีอำนาจมากำหนดผลการเลือกตั้งล่วงหน้า หรือกำหนดว่าพรรคไหนจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลอย่างที่ทำอยู่ ถ้าปล่อยไปอย่างนี้เราจะได้รัฐบาลภายใต้การควบคุมของผู้มีอำนาจทางทหารหรือฝ่ายความมั่นคง ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศขาดความเชื่อมั่น ส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง
“เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าผู้นำ คมช.บางคนเข้าไปมีส่วนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังในการตั้งพรรคการเมือง เพื่อไปรวมกับพรรคประชาธิปัตย์ และร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล และเมื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช. เข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรี ก็แสดงความคิดเห็นโจมตีพรรคพลังประชาชนเรื่อยมา ในทำนองว่าถ้าพรรคพลังประชาชนได้รับเสียงข้างมากในสภาประชาชนจะต้องเสียใจ พล.อ.สนธิในฐานะประธาน ครส. ต้องวางตัวเป็นกลาง ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่กลับพบว่า พล.อ.สนธิออกมาตอบโต้กับพรรคพลังประชาชนเป็นประจำทุกกรณี บางเรื่องไม่ได้กล่าวหาใครก็โต้ด้วยทุกวัน แสดงให้เห็นว่าไม่ได้วางตัวเป็นกลาง”