อลงกรณ์ เมิน โภคิน ฟ้องกลับ - สั่ง อภิรักษ์ ยกเลิกสัญญาดับเพลิง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 เมษายน 2549 15:58 น.
อลงกรณ์ พลบุตร ไม่สน โภคิน ฟ้องกลับหลังยื่น ป.ป.ช.สอบกรณีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิง กทม.ชี้ อย่าเบี่ยงประเด็นโยนบาปให้ อภิรักษ์ แฉหนังสือลงนามเร่งเปิดแอลซี-ข้อตกลงเอโอยูเอง เผย พรรคมีมติสั่งยกเลิกสัญญา ยันทำหน้าด้วยความถูกต้องและต้องการรักษาผลประโยชน์ชาติ
วันนี้ (27 เม.ย.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานตรวจสอบการทุจริตของพรรค แถลงว่า จะเดินหน้าปราบคอร์รัปชันต่อไป ไม่หวั่นแม้จะถูกนายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย อดีต รมว.มหาดไทย ฟ้องหมิ่นประมาท หลังตนได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายโภคิน และนายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯ กทม.กรณีจัดซื้อจัดจ้างรถดับเพลิงและอุปกรณ์ป้องกันสาธารณภัย วงเงิน 6,687 ล้านบาท งบผูกพันงบประมาณ 2549 2553 เพราะถือว่าทำหน้าที่โดยสุจริตในการป้องกันผลประโยชน์ของประเทศ นายโภคิน ไม่ควรเบี่ยงเบนประเด็น หรือปัดความรับผิดชอบโดยหาแพะด้วยการโยนความผิดพลาดไปให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.เพราะ นายอภิรักษ์ ได้ทำหนังสือถึงนายโภคินถึง 2 ครั้ง เพื่อขอให้มีการทบทวนการจัดซื้อเนื่องจากไม่มีการเปรียบเทียบราคา
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เหตุใดนายโภคินถึงจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคนสั่งให้นายอภิรักษ์ดำเนินการตามข้อตกลงเอโอยูที่นายโภคินลงนามกับทูตออสเตรีย และยังมีเลขารัฐมนตรีทำหนังสือเร่งรัดให้นายอภิรักษ์เปิดแอลซี (หนังสือค้ำประกันธนาคาร) ตามสัญญาซื้อขายอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง และมี 3 ประเด็นที่นายโภคินจะต้องตอบคนไทยทั้งประเทศ คือ 1.ทำไมถึงไม่รักษาผลประโยชน์ของทางราชการ โดยเสนอโครงการที่มีราคาแพงเกินจริงต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้ประเทศเสียหายกว่า 2 พันล้าน 2.ทำไมถึงไม่ทบทวนการจัดซื้อที่ไม่เปรียบเทียบราคาหรือต่อรองราคาตามที่นายอภิรักษ์เสนอเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2547 และวันที่ 12 ต.ค.2547 ตรงข้ามกลับสั่งให้ กทม.ดำเนินการตามข้อตกลงเอโอยูโดยมีหนังสือด่วนที่สุดที่ มท. 01000/13625 ลงวันที่ 5 พ.ย.โดยนายโภคินเอง
และ 3.ทำไมถึงมีหนังสือด่วนที่สุดจากสำนักงานรัฐมนตรีที่ มท.0100.2(1)/940 วันที่ 1 ต.ค. 2547 และหนังสือที่ มท.0100.2(1)/954 วันที่ 7 ต.ค.2547 ลงนามโดยผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนเลขานุการ รมว.มหาดไทย อ้างคำสั่งรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทน รมว.มหาดไทย เร่งรัดผู้ว่าฯ กทม.ให้ดำเนินการเปิดแอลซี ถามว่า นายโภคินรู้เรื่องนี้หรือไม่ ถ้ารู้ทำไมต้องเร่งให้เปิดแอลซี
นายโภคิน ควรใช้เวลาในการหาเหตุผลและหลักฐานไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.จะดีกว่ามาสร้างเป็นประเด็นทางการเมือง และถ้า ป.ป.ช.ชี้ว่ามีมูล นายโภคินจะต้องชดใช้ความเสียหายร่วมกับนายสมัครไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท นายโภคินควรขอบคุณนายอภิรักษ์แทนที่จะโยนความผิดพลาดไปให้ เพราะนายอภิรักษ์พยายามเสนอให้ทบทวนการจัดซื้อที่เสียเปรียบต่อนายโภคิน ซึ่งถ้าปฏิบัติตามก็ไม่ต้องให้ ป.ป.ช.สอบสวน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า มีหนังสือลงวันที่ 16 ธ.ค.2547 โดย นายประชา มาลีนนท์ อดีต รมช.มหาดไทย ปฏิบัติราชการแทน รมว.มหาดไทย ถึง ผู้ว่าฯ กทม.ระบุชัดเจนว่า กทม.ต้องดำเนินการตามเงื่อนไขในเอโอยู คือ การเปิดแอลซี ให้แก่ บ.เดมเลอร์ พุค โดยทันที เพื่อที่บริษัทจะได้ดำเนินการตามสัญญาของการจัดซื้อต่อไป และขอให้ กทม.แจ้งผลการดำเนินการให้กระทรวงมหาดไทยทราบโดยด่วน เพื่อที่จะแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศ ทราบ และชี้แจงให้สถานทูตออสเตรียทราบต่อไป อย่างนี้ชัดหรือยังว่าคนที่สั่งให้เปิดแอลซีเจ้าปัญหานี้คือรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไม่ใช่คนของประชาธิปัตย์
นายยุทธพงศ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติว่า กทม.ควรยกเลิกสัญญาจัดซื้อดังกล่าวนี้ เพราะชัดเจนแล้วว่าทูตออสเตรียไม่มีหนังสือมอบอำนาจในการเซ็นเอโอยู รวมทั้ง นายกันตธีร์ ศุภมงคล รมว.ต่างประเทศ ก็ยอมรับแล้วว่า เอโอยูก็ไม่อยู่ในสารบบของกรมสนธิสัญญา โดยให้ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม.เป็นผู้เรียนผู้ว่าฯ กทม.ให้ยกเลิกสัญญา โดยที่ นายโภคิน ไม่ต้องท้าก็ได้ เพราะพรรคมีมติไปก่อนแล้ว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ขอท้าให้รัฐมนตรีที่ดูแลการเลือกตั้งภาคเหนือเมื่อต้นปี 2548 เตรียมตัวได้เลยว่า จะมีฝรั่งแฉว่าได้จ่ายเงินให้ไปเท่าไหร่ เพื่อให้ได้งานนี้ เท่าที่ทราบเป็นหลักพันล้าน คงจะได้เห็นกันหลังจากที่ได้ยกเลิกสัญญาแล้ว เพราะเมื่อจ่ายสินบนไปแล้วไม่ได้ขายของ ฝรั่งต้องออกมาแฉแน่นอน และสินบนหลักพันล้านดังกล่าวทำให้ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์สอบตกกันเป็นแถว เรื่องนี้ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู (อดีตผู้สมัครพรรค ส.ส.พิจิตร) รู้ซึ้งเป็นอย่างดี