พันธมิตรฯประกาศยอมรับผลหารือศาลฝ่าวิกฤติตามแนวพระราชดำรัสทุกกรณี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 เมษายน 2549 14:15 น.
พันธมิตรฯน้อมรับพระราชดำรัส โดยยอมรับผลการหารือขององค์กรศาลทั้ง 3 ศาลที่กำลังร่วมกันหาทางออกวิกฤติบ้านเมือง แต่ย้ำว่าหาก กกต.และพรรคไทยรักไทยยังบิดพลิ้วหรือบ่ายเบี่ยงไม่ยอมปฏิบัติตามมติของศาลก็จะออกมาเคลื่อนไหวต่อไป ยืนยันการชุมนุมในวันที่ 2 พ.ค.ที่ท้องสนามหลวงเป็นการชุมนุมโดยสงบ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ให้กำลังใจศาลเท่านั้น
วันนี้( 27 เมษายน) เมื่อเวลาประมาณ 12.35 น. 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอันประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายภิภพ ธงไชย และ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ได้ร่วมกันแถลงที่บ้านพระอาทิตย์ ย้ำว่าขอน้อมรับพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2549 ที่ผ่านมาพร้อมทั้งให้การสนับสนุนและให้กำลังใจศาลทั้ง 3 ศาลคือ ศาลฎีกา ศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญที่จะร่วมกันประชุมหารือกันเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติของบ้านเมือง ซึ่งผลออกมาอย่างไรก็จะยอมรับทุกประการ
นายสนธิ ยังกล่าวว่า พันธมิตรฯ คณะราชนิกูล และแพทย์อาวุโส น้อมรับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชวินิจฉัยว่าการพระราชทานนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 7 ว่าทำไม่ได้ โดยเราจะหยุดการเคลื่อนไหวในประเด็นนี้ต่อไป
นายสนธิ กล่าวถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯในวันที่ 2 พ.ค.ที่ท้องสนามหลวงว่า ซึ่งจะมีการดำเนินการต่อไป แต่เป็นการชุมนุมเพื่อให้กำลังใจและสนับสนุนศาลทั้ง 3 ศาลที่รับสนองพระราชดำรัสเพื่อแก้วิกฤติของบ้านเมือง อย่างไรก็ดีถ้าหากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และพรรคไทยรักไทยยังบ่ายเบี่ยงต่อผลการประชุมของศาลทั้ง 3 ตามที่มีกระพระราชดำรส ทางพันธมิตรฯก็จะออกมาเคลื่อนไหวต่อไป
สำหรับภารกิจของพันธมิตรฯหลังวันที่ 2 พ.ค.นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องโดยจะปรับเปลี่ยนเป็นการให้ความรู้ให้ข้อมูลกับประชาชนทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาอันเกิดจากระบอบทักษิณ ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะการดำรงตำแหน่งนายกฯของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขาดความชอบธรรม อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการแก้ปัญหาของทั้ง 3 ศาลจะหาทางออกได้
นายสนธิ กล่าวเสริมว่า รูปแบบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯนับจากนี้ไปจะปรับเปลี่ยนไป โดยแกนนำพันธมิตรฯแต่ละคนก็จะแยกย้ายกันไปให้ความรู้กับประชาชน เช่น นายสมศักดิ์ จะเดินสายให้ความรู้ในกลุ่มแรงงาน นายภิภพ จะเดินสายให้ความรู้ให้ข้อมูลในกลุ่มองค์กรเอกชน(เอ็นจีโอ) เป็นต้น ส่วนตัวเองก็จะมีการจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรไปตามสถานที่ต่างๆทั่งประเทศต่อไป แต่ทุกอย่างจะมาบรรจบกันเพื่อให้มีการรู้ทันทักษิณต่อไป
ถามว่า จะมีการชุมนุมใหญ่ต่อไปหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ยังไม่มีการกำหนดชุมนุมใหญ่ แต่ช่วงนี้จะเป็นการเดินสายให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน เนื่องจากยังมีการปิดกั้นและบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอยู่
"ภารกิจของพันธมิตรฯหยุดลงชั่วคราว เราจะถอยมาให้กำลังใจกับศาล ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อร่วมกันแก้วิกฤติของบ้านเมืองตามกระแสพระราชดำรัส และการชุมนุมวันที่ 2 พ.ค.ก็เป็นการให้กำลังใจ เป็นการชุมนุมอย่างสงบสันติ อหิงสาเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญโดยไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ไหน โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 17 .00 น.จนถึง 24.00 น.เท่านั้น" นายสนธิระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า เกือบทุกองค์กรในบ้านเมืองถูกครอบงำโดยระบอบทักษิณ เหลือเพียงตุลาการเท่านั้นที่ยังพึ่งพาได้ และย้ำว่าการเคลื่อนไหวต่อไปจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนไหวในนามของสมัชชาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งกระจายไปทุกจังหวัดเพื่อเคลื่อนไหวให้มีการปฏิรูปการเมืองร่วมกันต่อไป