นางลีนา จังจรรยา หรือ "ลีน่า จัง" ประธานมูลนิธิลีน่า จัง อดีตสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย
เข้าพบพ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ เลขาวิจิตร์ สบ2 สน.ทุ่งมหาเมฆ แจ้งความให้ดำเนินคดีนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ว่าที่หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร รองเลขาธิการพรรค นายฉัตรชัย ชูแก้ว เลขาธิการพรรค และนายรัตนวุฒิ เจริญรัมย์ รองหัวหน้าพรรค ในข้อหาหลอกลวงและแสดงข้อความอันเป็นเท็จ พร้อมนำเอกสารหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรค ในการลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ 8 กรุงเทพฯ และหนังสือยกเลิกการรับรองของหัวหน้าพรรคในการลงสมัคร ส.ส.
นางลีน่า ระบุต่อว่า เดิมพรรคจะส่งตนลงสมัครแบบสัดส่วน แต่กลับไม่มีชื่อตน
เมื่อขอความเป็นธรรมไป จึงมีการประสานจะให้ตนลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ในเขต 8 กรุงเทพฯ โดย ร.อ.รชฏ เป็นผู้รับรอง พร้อมมอบหนังสือรับรองจากหัวหน้าพรรคให้ตนไว้ใช้ประกอบการสมัคร ส.ส.อีกด้วย แต่เมื่อจะไปยื่นสมัคร ส.ส. ก่อนสมัครประมาณ 5 นาที มีเจ้าหน้าที่ของพรรคนำเอกสารยกเลิกใบรับรองการเป็นตัวแทนพรรคมายื่นต่อ กกต. โดยให้เหตุผลว่าได้พบความบกพร่องในขั้นตอนการจัดพิมพ์หนังสือรับรอง ซึ่งสร้างความสับสนให้กับตนอย่างมาก และทำให้ตนต้องเสียเงินไปเกือบ 1 ล้านบาทในการเตรียมการ แม้จะมีการจ่ายชดเชยให้แต่ตนได้ปฏิเสธ เพราะถือว่าทำให้ตนเสื่อมเสียไปแล้ว
ลีน่า จังแจ้งความโดนตุ๋น
นางลีน่า กล่าวอีกว่า ตนอยากให้นาย ประชัยออกมาแสดงความรับผิดชอบและขอโทษ กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ส่งเอกสารการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตยไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีว่าที่ผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตจ.เพชรบูรณ์ ซึ่งถูกหลอกลวงเช่นเดียวกับตนจะเดินทางมาร้องเรียนที่กกต. โดยจะนำหลักฐานเป็นเอกสารการใช้เงินในการ หาเสียงเลือกตั้งที่ระบุว่ามีการใช้เงินเกิน 1.5 ล้านบาท ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดและมีโทษถึงขั้นยุบพรรคไปแสดงต่อกกต.
นอกจากนี้ในวันที่ 14 พ.ย.ตนจะเดินทางไปศาลแพ่งกรุงเทพใต้
เพื่อยื่นหนังสือเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง 1 พันล้านบาท ในฐานละเมิดทำให้ตนเสียหาย กับนายประชัยและพวกอีก 3 คนด้วย และขอให้พนักงานสอบสวนรับคดีของตนไว้ด้วย ส่วนจะสั่งฟ้องหรือไม่เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนและอัยการ