ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า
ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันที่ 14 พ.ย. จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่...) พ.ศ....(กำหนดห้ามผู้ขับขี่ใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใดในขณะที่รถเคลื่อนที่) ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2 และ 3 โดยคณะกรรมา ธิการฯ ตั้งข้อสังเกตว่า ในการตรา พ.ร.บ. ห้ามใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะขับรถ เว้นแต่มีอุปกรณ์เสริมนั้น จะช่วยลดอุบัติเหตุได้มาก แต่เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้จะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ที่มีการจราจรคับคั่ง ดังนั้น รัฐบาลควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนโดยทั่วไป รวมทั้งสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ในการตรวจจับภาพผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.แทนการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเป็นผู้ตรวจจับบนผิวการจราจรให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คณะกรรมาธิการฯ ยังได้ตั้งข้อสังเกตต่อว่า
เพื่อให้การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนมีประสิทธิภาพในทางปฏิบัติยิ่งขึ้น นอกจากการห้ามใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ เว้นแต่ใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์นั้น ในระยะยาวควรห้ามใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งขอให้พิจารณาเสนอกฎหมายให้ครอบคลุมถึงการใช้เครื่องมื่อสื่อสารอื่น ๆ ขณะขับรถด้วย อีกทั้งปัญหาการจราจรในปัจจุบันเป็นปัญหายากต่อการแก้ไขปัญหา ส่วนหนึ่งมาจากกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกไม่เอื้ออำนวยต่อการแก้ปัญหา เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับมานานและมีบทบัญญัติบางประการล้าสมัยไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะบทกำหนดโทษที่ไม่เหมาะสม ทำให้ไม่สามารถป้องปรามการกระทำความผิดได้ จึงเสนอให้รัฐบาลสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกทั้งฉบับและให้สตช.พิจารณาปรับปรุงแนวทางขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจราจรให้สามารถบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ.