ผู้สื่อข่าวถามว่า ครส.จะมีทิศทางทำความเข้าใจอย่างไร ที่พรรคพลังประชาชนชูประเด็นการปฏิวัติรัฐประหาร 1 ปีที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ
และนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค พปช. ระบุด้วยว่า รัฐธรรมนูญเฮงซวย ให้ประชาชนเลือกข้าง พล.อ.สนธิตอบว่า เรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญ เรามีคณะทำงาน คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติของประชาชน อย่าไปดูถูกว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มันไม่ดีอย่างไร และในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ปี 50 ก็เปิดโอกาสให้รัฐบาลที่จะมาบริหารประเทศสามารถปรับแก้รัฐธรรมนูญได้ อย่าไปโทษรัฐธรรมนูญ มันไม่ดี ต้องดูว่าตรงไหนมันไม่ดี จะเอาตามใจใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ต้องนึกถึงภาพส่วนรวมของคนทั้งประเทศ
เมื่อถามว่า พปช.จะโยงไปถึงคะแนนผลการลงประชามติรัฐธรรมนูญในพื้นที่สีแดงที่โหวตไม่รับรัฐธรรมนูญ ไปปลุกกระแสทำให้กลุ่มอำนาจเก่าได้กลับเข้ามามีอำนาจได้อีก
พล.อ. สนธิตอบว่า โดยข้อเท็จจริง คราวที่แล้วมันไม่ได้มีใครสู้กับใคร แต่คราวนี้จะเป็นการต่อสู้กันระหว่างนักการเมืองในแต่ละพรรค คิดว่าเป็นปกติของการต่อสู้แข่งขัน คงไม่น่ามีปัญหา
สนธิ สวน สมัคร อย่าโทษ รธน.ไม่ดี
เมื่อถามว่า แต่นายสมัครชูประเด็นเป็นการต่อสู้ระหว่างกลุ่มอำนาจเก่าพรรคไทยรักไทยเดิมกับกลุ่ม คมช. คือฝ่ายทหาร
พล.อ.สนธิตอบว่า เราอธิบายให้ ประชาชนไปในทั้งประเทศแล้วค่อนข้างมาก โดยใช้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และ กอ.รมน. เข้าไปทำอยู่แล้ว จนประชาชนทุกคนเข้าใจว่าเราต้องทำเพื่ออะไร ปรารถนาดีที่ทำการปฏิรูป ทุกคนคงจำได้ว่าก่อนวันที่ 19 ก.ย. เมื่อต้นปี 49 ทุกคนพยายามจะดึงทหารเข้าไปทำงาน บอกว่าไหนว่ารักชาติ ทำไมไม่ยอมเสียสละมาปฏิวัติสักที พอเราปฏิรูปหรือปฏิวัติเสร็จยังมาพูดกันด้วยว่าทำไมเพิ่งจะมาทำปฏิวัติ ทั้งที่น่าจะทำตั้งนานแล้ว นี่คือเสียงประชาชน
ฉะนั้น ประชาชนต้องนึกถึงในวันนั้น ถึงตอนนี้เรากำลังนำประชาธิปไตยมาคืนให้ ไม่ใช่เรามาเป็นเผด็จการ เรากำลังปราบเผด็จการเพื่อนำประชาธิปไตยมาคืนให้ประชาชน
คิดว่าประชาชนทุกคนเข้าใจ จะไปยื้อแย่งให้ทหารแยกออกจากประชาชนหรือทะเลาะกับประชาชนเป็นไปไม่ได้ เพราะทหารคือลูกหลานของประชาชน การจะทำอะไรทหารระมัดระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาระหน้าที่ของกองทัพเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ม็อตโตนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำงานให้กับชาติบ้านเมือง