อภิสิทธิ์น้อมรับพระราชดำรัสพร้อมลงเลือกตั้งครั้งต่อไป

อภิสิทธิ์ น้อมรับกระแสพระราชดำรัสในหลวง พร้อมร่วมมือกับองค์กรศาล ระบุ จะลงเลือกตั้งในครั้งต่อไป

(26เมษายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เรียกประชุมแกนนำพรรคด่วน ที่บ้านพักย่านสุขุมวิทของนายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อหารือและกำหนดทิศทางของพรรค ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสถึงสถานการณ์บ้านเมือง วิกฤตทางการเมือง และปัญหาการเลือกตั้ง รวมถึงกรณีการใช้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ในการขอนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลพระราชทาน

จากนั้น เวลา 11.45 น. นายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางกลับมายังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์พร้อมกับแถลงข่าวว่า เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีกระแสพระราชดำรัสต่อคณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานแนวทางของการที่จะคลี่คลายวิกฤตของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือวิกฤตการทางการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน พรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่พระองค์ท่านทรงพระราชทานแนวทางดังกล่าว และเชื่อมั่นว่า กระบวนการที่สืบเนื่องมาจากแนวทางนี้จะสามารถนำพาประเทศไทยและบ้านเมืองให้ผ่านพ้นวิกฤตและสามารถที่จะพัฒนาให้เจริญก้าวหน้าไปตามวิถีทางของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

ขั้นตอนต่อจากนี้ไปคงจะเป็นขั้นตอนที่ทางองค์กรศาลซึ่งจะต้องเป็นองค์กรหลักในการที่จะหาแนวทางที่จะคลี่คลายวิกฤตไปดำเนินการ สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการจะยืนยันก็คือ พรรคขอน้อมรับแนวพระราชดำรัสและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับการดำเนินการขององค์กรศาลในทุกประการ ทุกขั้นตอน และหากแนวทางที่จะเกิดขึ้นต่อไป หมายรวมถึงมีการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ก็มีความพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นไปตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้พรรคขอแสดงความชัดเจนต่อจุดยืนและการดำเนินการของพรรค เพื่อให้เป็นไปตามแนวพระราชดำรัส และตนขออนุญาตที่จะไม่แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม หรือตอบคำถามใด ๆ เพราะมีความเชื่อว่าการคลี่คลายวิกฤตที่จะเกิดขึ้นต่อไปนั้น การน้อมรับแนวพระราชดำรัสอย่างดีที่สุดคือการที่ทุกคนทุกฝ่ายจะทบทวนถึงการดำเนินการของตนเอง และร่วมมือกับการดำเนินการที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต มากกว่าที่จะให้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งกันและกันหรือไปแสดงความคิดเห็นที่จะเป็นการไปก้าวล่วงถึงการตัดสินใจ หรือการแสดงบทบาทของฝ่ายอื่นๆ

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดการใช้มาตรา 7 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขออนุญาตไม่พูดเพิ่ม หรือแสดงความคิดเห็น ตนคิดว่าดีที่สุดคือการคิดถึงว่าแต่ละฝ่ายจะช่วยกันคลี่คลายแนวทางต่างๆ ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์อย่างไร ในวันข้างหน้า ดีที่สุด และในเวลา 15.00 น. ตนจะหารือกับแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ในเรื่องเดียวกันนี้ต่อไป