กกต.ยันเร่งให้มีสภาโดยเร็ว ติงอย่าตีความพระราชดำรัส

"ปริญญา" ระบุ กกต.น้อมกระแสพระราชดำรัสใส่เกล้าฯเร่งให้มีสภาโดยเร็ว แต่ปฏิเสธเรื่องเลือกตั้งไม่ชอบธรรม เตือนระวังตีความผิด ด้าน"พงษ์เทพ" ระบุ อย่าตีความพระราชดำรัสแค่บางตอน ส่วนจะเปิดสภาหรือไม่รอดูการสมัครรับเลือกตั้งวันที่ 29 เมษายนนี้

(26เม.ย.) นายปริญญา นาคฉัตรีย์ กกต. กล่าวถึง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ตนได้ฟังแล้ว ซึ่ง กกต. ก็ต้องทำตาม คือทำให้มีสภา เพื่อให้มีรัฐบาลต่อไป โดย กกต.จะพิจารณารับรอง ส.ส. ให้ครบ ตามแนวทางที่ กกต. เคยบอกไว้ตอนแรก

เมื่อถามถึงการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม นายปริญญา กล่าวว่า คุณตีความไปเองหรือไม่ หากตีความผิดก็ให้ระวังนะ พรรคการเมืองในประเทศไทยก็มีตั้งสามสิบกว่าพรรค แต่ทำไมไม่มาสมัคร

ด้าน พล.อ.จารุภัทร เรืองสุวรรณ กกต. กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่าได้รับฟังระแสพระราชดำรัสแล้วเช่นกันและ กกต.พร้อมจะน้อมรับใส่เกล้าฯ เพื่อเอามาดำเนินการให้ดีที่สุด

แต่เมื่อถามถึงแนวทางในการดำเนินการต่อไป พล.อ.จารุภัทรกล่าวว่าต้องนำไปหารือในที่ประชุมก่อน หลังจากนั้น พล.อ.จารุภัทร จึงขอตัวไปเข้าประชุมโดย อ้างว่ามีเรื่องสำคัญ

รายงานข่าวแจ้งว่าในวันนี้ กกต.แต่ละคนได้มาถึงสำนักงานตั้งแต่เช้าและมีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่พร้อมที่จะตอบคำถามของผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

ด้านนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า พระราชดำรัสเมื่อคืน(25 เม.ย.)มีรับสั่งเกี่ยวกับเรื่องสำคัญของประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายควรน้อมรับและนำไปปฏิบัติตามภาระหน้าที่ที่สามารถทำได้ ในส่วนของพรรคก็จะนำมาพิจารณาว่า อะไรอยู่ในกรอบที่สามารถดำเนินการได้เพื่อเร่งแก้ปัญหาประเทศ และไม่ควรนำพระราชดำรัสเพียงบางตอนมาตีความ เพราะทรงรับสั่งหลายรอบ และให้นำพระราชดำรัสทั้งหมดมาพิจารณาเพื่อจะได้เข้าใจความหมาย ซึ่งก็ต้องตัดความคิดเดิมออกเพื่อจะได้ไม่ตีความเข้าข้างตัวเอง ทุกคนอยากให้ประเทศเดินไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการเปิดประชุมรัฐสภาหรือไม่ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ต้องรอดูผลการเลือกตั้งวันที่ 29 เมษายนนี้ก่อนว่า จะได้ครบในเขตที่เหลือหรือไม่ ซึ่งต้องดูการรับสมัครส.ส.รอบสามวันนี้ว่า จะมีผู้มาสมัครเพิ่มหรือไม่ ส่วนที่มีการตีความพระราชดำรัสว่า ให้ล้มการเลือกตั้ง และจัดการเลือกตั้งใหม่โดยมีฝ่ายค้านลงสมัคร เห็นด้วยหรือไม่นั้น นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปอ่านพระราชดำรัสให้หลายรอบ และทำจิตให้ว่าง ทำใจให้เป็นกลางด้วย