"วิทยา" ฟันธง ! ยิ่งจัดเลือกตั้งคนใต้ยิ่งขัดขืนระบอบ กกต.
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 เมษายน 2549 22:37 น.
สุราษฏร์ธานี - วิทยา แก้วภารดรัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ฟันธง กกต.ยิ่งจัดเลือกตั้ง คนใต้ยิ่งขัดขืนระบอบเลือกตั้งของ กกต.มากขึ้นเท่านั้น เลือกสัก 100 ครั้งคนใต้ก็ไม่เอาไทยรักไทย เปิดสภาเมื่อใดเป็นสภาโจ๊กแน่นอน ผู้นำฝ่ายค้านได้คะแนนแค่ 3 พัน ไม่กล้าแม้จะสู้หน้าประชาชน
เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.วันนี้ (24 เม.ย.) นายวิทยา แก้วภารดรัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ขึ้นเวที เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ฉบับย่อที่เวทีปราศรัยพันธมิตรฯที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีนางสาวสโรชา พรอุดมศักดิ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยนายวิทยา กล่าวว่า ยิ่ง กกต.จัดการเลือกตั้งมากครั้งเท่าใด คนใต้ก็จะยิ่งขัดขืนระบอบการเลือกตั้งของกกต.เพิ่มสูงขึ้นมากเท่านั้นและต่อให้มีการจัดการเลือกตั้งในภาคใต้สัก 100 ครั้ง หากมีเพียงผู้สมัครพรรคไทยรักไทยแค่พรรคเดียว ก็ไม่ทางที่จะได้ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ นอกจากส่งผู้สมัครจากพรรคไม้ประดับเข้าประกบเท่านั้น ไทยรักไทยถึงจะได้ ส.ส.ในภาคใต้
นายวิทยา กล่าวอีกว่า สภาชุดนี้เป็นสภาโจ๊กแน่นอน มีที่ไหนส.ส.ตัวแทนของประชาชนได้รับคะแนนเลือกตั้งแค่ 3,000 กว่าคะแนน ซึ่งได้มีข่าวออกมาว่าหน้าพรรคคนขอปลอดหนี้คนปัจจุบันจะลาออกเพื่อให้คนที่ได้รับเลือกตั้งส.ส.ที่นครฯเป็นหัวหน้าพรรคแทนเพื่อที่จะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านที่ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อกลับมานครศรีธรรมราชมีรถตำรวจนำ แต่เมื่อลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านไม่แน่ในเหมือนกันว่าจะกล้าพบปะประชาชนหรือไม่
คนหน้าด่านที่สุดคือคนที่รับหน้าที่ในการจ้างพรรคเล็กๆ มาเป็นพรรคไม้ประดับส่งลงประกบ แต่คนใต้กลับเลือกพรรคไม้ประดับเป็นส.ส.แทนที่จะเลือกคนของพรรคที่ว่าจ้างพรรคเล็กมาลงสมัคร คนที่หน้าด้านที่สุดคือคนที่อยู่เบื้องหลัง และคิดว่ากกต.ชุดนี้ไม่กล้าที่จะลงโทษคนหน้าด้านที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน
นายวิทยา ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ดำเนินรายการถามถึงเรื่องที่นายกทักษิณเดินทางไปต่างประเทศเพื่อชี้แจงกับประเทศต่างๆ ว่า เดินทางไปโดยส่วนตัว แต่ไปในฐานะที่ยังเป็นรักษาการณ์นายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าค่าเครื่องบินเราต้องจ่ายให้หรือเปล่า ทักษิณพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากนายกทักษิณนั้น จะต้องเป็นคนที่นายกทักษิณสามารถชักปากให้พูดได้เหมือนกับหนังตะลุง ที่มีนายหนังอย่างนายกทักษิณยักใยอยู่ข้างหลังเหมือนนายหนังตะลุงที่ทำหน้าที่ชักหนัง
สุดท้ายนายวิทยา ได้ฝากกับชาวสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช รวมทั้งพี่น้องประชาชนใกล้เคียงว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันกับประชาชนชาวใต้ที่ไม่ส่งคนสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายให้ประชาชนได้อย่างใจได้ทราบว่า การยุบสภาฯของนายกทักษิณไม่ได้มีเจตนาที่จะคืนอำนาจให้ประชาชน เพียงแต่ต้องการปกปิดใน 2-3 เรื่อง คือ การตรวจสอบการซุกหุ้นรอบ 2 การโกงภาษีโดยการขายหุ้นให้เทมาเส็ก 73,000 ล้านบาทไม่เสียภาษีแม้แต่บาทเดียว และพันธมิตรฯและคนไทยกล่าวหาว่าทักษิณขายชาติ ทำให้ต้องยุบสภาเพื่อหนีการเข้าหาทั้งหมดเท่านั้น