ทักษิณ วางมือแต่ไม่วางสมอง

นายนพดล ปัทมะ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนกล่าววานนี้ (28 ต.ค.) กรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า

ตนโยนหินถามทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของพรรคพลังประชาชน และอ้างว่าพรรคอื่นทำได้ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ควรทำ ว่า เห็นได้ถึงความมีสองมาตรฐานของนายอลงกรณ์ พ.ต.ท.ทักษิณวางมือทางการเมืองแล้ว แต่ไม่ได้วางสมอง โดยยังคิดนโยบาย แนวคิดที่จะพัฒนาประเทศอยู่ในกรอบของท่าน ฉะนั้น ตอนนี้ยังไม่ได้มีการตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหารือในคณะกรรมการก่อน อย่างไรก็ตาม ถ้าถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณยินดีหรือไม่ ท่านอายุแค่ 58 ร่างกายแข็งแรง สมองทำงานอยู่ สามารถให้คำปรึกษาแก่ทุกองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐก็ยังได้

เย้ย ปชป.อย่าลนลานกลัวแพ้เลือกตั้ง

นายนพดลกล่าวด้วยว่า ส่วนที่นายอลงกรณ์ระบุว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาจริง จะทำให้เกิดวิกฤติทางการเมืองนั้น แนวทางของพรรคพลังประชาชนมี 3 ป คือ ปรองดอง ประชาธิปไตยและปากท้อง วันที่ 29 ต.ค. จะมีการแถลงนโยบายประมาณ 12 เรื่อง เพราะฉะนั้นรับรองว่าแม้ พ.ต.ท.ทักษิณจะมาเป็นที่ปรึกษาจะไม่ทำให้เกิดวิกฤติแน่นอน ขออย่าลนลานกลัว พ.ต.ท. ทักษิณจนเกินเหตุว่าจะทำให้พรรคของตัวเองไม่ชนะการเลือกตั้ง การชนะเลือกตั้งถล่มทลายที่ผ่านมาเพราะนโยบายที่โดนใจประชาชน นโยบายเหล่านั้นได้นำมาร่างเป็นนโยบายของพรรคพลังประชาชนทั้งหมด ดังนั้นให้ประชาชนตัดสินในวันที่ 23 ธ.ค. ดีกว่าว่าชอบนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์หรือพลังประชาชน ทั้งนี้ เราตื่นเช้ามาไม่ได้มานั่งคิดหาถ้อยคำโวหารโจมตีฝ่ายตรงข้าม แต่ได้สรรหานโยบายที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชน

รอ กกต.ยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษร
 
“ถ้าเราจะตั้งคุณทักษิณจริง ต้องมีคำยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจาก กกต.ก่อนว่าทำได้หรือไม่ แล้วถึง จะดำเนินการ ยังมีเวลา ตอนนี้ฝ่ายกฎหมายยุ่งกับการตรวจสอบเอกสารของ คมช.ดังนั้น เราจะแต่งตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนจะก่อนการเลือกตั้ง หรือหลัง เป็นรัฐบาลแล้วก็เป็นอีกเรื่อง คงจะมาช่วยด้านแนวคิด ใช้หนึ่งสมองสองมือสองเท้าเท่านั้น เพราะดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคยบอกว่าวางมือทางการเมืองนั้น หมายถึงไม่เป็นผู้เล่นการเมือง ไม่เป็นผู้สมัคร ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค เป็นก็เป็น แต่การให้คำปรึกษานั้นให้ได้ อย่างคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือคุณสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ซึ่งเคยร่วมงานกับ พ.ต.ท. ทักษิณก็ยังเป็นที่ปรึกษาได้” นายนพดลกล่าว

จี้ ปชป.เชื่อมโยงกับทหารแนบแน่น

ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกมีข่าวว่าลูกหลานของสมาชิก คมช.คือ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คมช.จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ถ้าเป็นจริงสะท้อนให้เห็นและยืนยันสิ่งที่ประชาชนรู้มาตลอดว่า การเชื่อมโยงระหว่างทหารและพรรคประชาธิปัตย์ค่อนข้างแนบแน่น แต่เราไม่มีอะไรสู้ คมช.นอกจากนโยบาย ความนิยมในตัวอดีตหัวหน้าพรรค และจุดยืนของเราที่ไม่เอาเผด็จการ ส่วนเรื่องรูปภาพที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชนจะใช้รูปถ่ายคู่ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น มี กกต.บางคนบอกว่าสุ่มเสี่ยง และยังมีผู้สมัครของพรรคที่ถูกซื้อตัวไปอยู่ที่อื่น แต่ไปพูดกับประชาชนว่าเป็นคนของ พ.ต.ท.ทักษิณขนานแท้ แต่แบ่งกันตี จนทำให้เกิดความสับสน ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยินยอมให้ใช้รูปส่วนวีซีดีนั้นประมาณ 1 เดือนจะเสร็จ แต่อาจจะใส่ไว้ในเว็บไซต์ เพราะ พปช.ถูกจ้องอยู่ กรณีนี้ อาจเป็นสาเหตุอ้างให้ยุบพรรคได้ อย่างไรก็ตาม อาจจะมีกลเม็ดเทเลคอนเฟอเรนซ์ข้ามประเทศก็เป็นได้

“ทักษิณ” ห่วงเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์

นายนพดลกล่าวด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความเป็นห่วงการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงมาก ในแง่ที่ว่าจะไม่ บริสุทธิ์ยุติธรรม และห่วงบทบาทของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีที่เป็นหัวหน้าคณะยึดอำนาจที่ไม่ยอมรับกติกาประชาธิปไตย แต่มาดูแลการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มของประชาธิปไตย มันแปลกมากและห่วงเรื่องเอกสารลับของ คมช.ที่พยายามทำลายและดิสเครดิตตัว พ.ต.ท.ทักษิณและ พปช. เช่น เรื่องการว่าจ้างสื่อต่างชาติ โจมตีหาว่าทำลายสถาบันหรือฝักใฝ่ระบอบประธานาธิบดีซึ่งเป็นเท็จทั้งสิ้น เรื่องนี้ถ้าเป็นกลุ่มบุคคลทำก็น่าเป็นห่วงอยู่แล้วยิ่งเป็นรัฐทำ โดยนายกฯยืนยันว่าเป็นเอกสารจริงยิ่งน่าเป็นห่วงใหญ่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครในประเทศนี้จะสกัดกั้นพลังประชาชนได้ ความถูกต้องเป็นธรรมจะเอาชนะความอยุติธรรมได้ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์