ส่งตัว ทักษิณ กลับไทยไม่ใช่หมู

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก

นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะทำงานติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก ตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อหารือการยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
 
หลังจากที่คณะทำงานได้เดินทางกลับจากการหารือกับอัยการอังกฤษ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

หลังการประชุม นายสัมพันธ์ สาระธนะ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ ในฐานะรองประธานคณะทำงานฯ เปิดเผยว่า ในการหารือกับอัยการประเทศอังกฤษยังไม่ได้รับการยืนยันว่า ความผิดที่ฟ้องจำเลยฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตนั้น เป็นความผิดในประเทศอังกฤษหรือไม่ แต่ได้รับการชี้แจงว่าความผิดนั้นมีความเป็น ไปได้ที่จะยื่นคำร้องให้ศาลอังกฤษพิจารณา ทางอัยการอังกฤษระบุว่าจำเลยมีสิทธิในการต่อสู้ได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่ชั้นอัยการ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา รวมไปถึงในระหว่างที่รัฐเตรียมจะส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ ส่วนระยะเวลาในการดำเนินการในคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนทั่วไปนั้น ใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ในส่วนของจำเลยที่มีอำนาจบารมีอาจจะต้องใช้เวลานานมากกว่านั้น

ดึงพยานที่ดินรัชดาฯสาบานตัว

นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีที่ดินรัชดาฯ กล่าวถึงกรณีที่อัยการของประเทศอังกฤษระบุให้อัยการสูงสุดของไทยประสานให้ คตส.เชิญพยานที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดินถนนรัชดาภิเษกมาสาบานตัวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วลงสมุดบันทึกส่งไปยังประเทศอังกฤษว่า ถ้าหากอัยการประสานมายังคตส.ก็ยินดีที่จะร่วมมือทำตาม ถือว่าเป็นข้อมูลของ ประเทศอังกฤษ เพราะระบบของเขาถือว่าเป็นต้นแบบ จารีตปฏิบัติของระบบศาลอังกฤษ ถ้าหากไม่สาบานก่อนเป็นพยานเขาก็จะไม่เชื่อถือ แต่ยังไม่แน่ใจว่าพยานบุคคลจะมาครบทุกคนหรือไม่ เพราะเราไปบังคับเขามาไม่ได้ ทั้งนี้ หากเรียกมาสาบานแล้วพยานทุกคนจะต้องรับรองว่า พูดแต่ความจริงและมีความซื่อสัตย์ เมื่อพยานทุกคนสาบานตัวแล้ว เราก็จะทำการจดบันทึกไว้ว่าได้ สาบานไว้แล้ว แล้วก็สามารถให้อัยการส่งสมุดบันทึกไปยังประเทศอังกฤษได้ 


อนุฯหุ้นชินฯเรียก “นพดล” เข้าชี้แจง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า เช้าวันเดียวกัน คณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปฯ ที่มีนายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ กรรมการ คตส.เป็นประธาน ได้เชิญนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายอดีตนายกฯ เข้าชี้แจงกว่า 3 ชั่วโมง นายนพดลกล่าวว่า อนุกรรมการฯถาม 3 เรื่อง คือ 1. เงินค่าจ้างทนาย ยืนยันว่าไม่ถึง 100 ล้านบาทตามที่เป็นข่าว 2. การซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ในส่วนของ บ.แอมเพิลริช ให้นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร มีการเสียภาษีหรือไม่ ขอให้ถามนางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จะรู้ข้อมูลในส่วนนี้ดีกว่า และ 3. การซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ว่า เอาเงินส่วนไหนมาซื้อ ยอมรับว่าเงินบางส่วนมาจากภายในประเทศ ส่วนจะเป็นเงินส่วนไหนนั้นไม่ทราบ และถามถึงอำนาจหน้าที่การบริหารภายในสโมสรของ พ.ต.ท.ทักษิณได้ตอบไปว่า เป็นอำนาจตามปกติของประธานสโมสรที่มี นอกจากนี้อนุกรรมการฯ ยังซักถามถึงการมีทรัพย์สินอื่นๆ นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยในลอนดอน ยืนยันว่าไม่มี ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ อนุกรรมการได้ขอเบอร์โทรศัพท์ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่ขอตอบ เพราะเป็นมารยาท ตามเอกสิทธิ์คุ้มครองลูกความ



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์