ผู้สื่อข่าวถามว่า
ทาง คมช.ได้รายงานหรือไม่ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของ คมช.จริง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอกสารที่ตนได้รับเป็นการถ่ายสำเนาไปซึ่งมีการลงชื่อแต่ตนยังไม่ได้ตรวจสอบว่าเป็นเอกสารของ คมช.หรือไม่ แต่ตนได้อ่านข้อความในเอกสารก็ไม่ได้มีการระบุถึงความใช้ความรุนแรงอะไร เป็นเรื่องที่พูดโดยรวมว่าเป็นแนวคิดของ คมช.ในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า
อย่างนี้จะทำให้การเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.เกิดความเป็นธรรมและเป็นกลางหรือไม่ เพราะมีการสกัดกั้นไม่ให้พรรคใดพรรคหนึ่งสามารถกลับเข้ามาได้ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ก็จะหารือกันในส่วนเหล่านี้ว่าสิ่งที่เราจะทำคือการสนับสนุน กกต.คือการทำให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า
จำเป็นต้องมีการสกัดกั้นพรรคพลังประชาชนหรือไม่เพราะไม่ต้องการให้มีการสืบทอดอำนาจจากพรรคไทยรักไทยเก่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนนี้ตนคิดว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกใคร เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ถูกมองว่ามีการใช้กองทัพมาเป็นกลไกในการสกัดกั้นพรรคการเมืองบางพรรค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทาง ผบ.ทบ.ได้ชี้แจงค่อนข้างชัดเจนในส่วนนี้แล้ว ตนจะได้หารือกับ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก รักษาการประธาน คมช.อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ เอกสารที่ออกมาไม่ได้มีอะไรที่ถือว่าเป็นการไปกดดันหรือริดรอนอะไร เป็นแนวคิดตั้งแต่ต้นปี ดูแล้วก็ไม่มีอะไรใหม่ ในส่วนของ คมช.เองก็ไม่ได้มีอะไรใหม่นอกเหนือไปจากนี้ เพียงแต่ช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ตนจะขอหารือและจะขอให้การดำเนินการของ คมช.สนับสนุนและสอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาลในการสนับสนุนการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใสและเป็นธรรม ตามแนวทางที่ กกต.ตั้งใจไว้
เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นเงื่อนไขให้พรรคพลังประชาชนออกมาต่อรองกับรัฐบาลหรือ กกต.หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคงไม่เกิดความสับสนอะไร และคนที่จะเป็นผู้ตัดสินคนสุดท้ายก็คือประชาชน