คตส. คาดไต่สวน5คดีฉาวยุคทักษิณ ได้ในอีก 2 สัปดาห์

ระบุเป็นเรื่องทำให้รัฐต้องเสียผลประโยชน์ ซึ่งเชื่อว่าอาจมีมูลค่ามากกว่าแสนล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายบรรเจิด สิงคะเนติ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) หนึ่งในคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบในการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตนเองและพวกพ้อง เปิดเผยว่า ภายใน 2 สัปดาห์

การไต่สวนข้อมูลในส่วนของการมาตราการเอื้อประโยชน์ 5 เรื่อง ได้แก่

กรณีการลดส่วนแบ่งรายได้บริการพรีเพด การเชื่อมโยงโครงข่ายของบริษัท แอดวานซ์อินโฟเซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กรณีสัมปทานดาวเทียม ของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) การออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จัดเก็บภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม และกรณีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เพิ่มวงเงินสินเชื่อ จำนวน 1 พันล้านบาท ให้แก่รัฐบาลพม่า เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ดาวเทียม จากบริษัท ชินแซทเทิลไลท์ น่าจะนำเสนอผลการไต่สวนเสนอให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ พิจารณาได้อย่างแน่นอน

การนำเสนอข้อมูลในแต่ละเรื่องก็จะมีการระบุถึงความเสียหายที่ทำให้รัฐต้องสูญเสียไป

ในแต่ละเรื่องด้วย ซึ่งตัวเลขที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมในขณะนี้ จะมีทั้งในส่วนที่คณะอนุกรรมการไต่สวน ได้รับแจ้งจากหน่วยงานราชการและตัวเลขาฯคณะอนุกรรมการ รวบรวมจากข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ได้รับในช่วงการไต่สวนคดี แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้' นายบรรเจิดกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการออกมาตรการเอื้อประโยชน์ทั้ง 5 เรื่อง

ที่จะนำเสนอให้ที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่ พิจารณาจะมีมูลค่ารวมกันมากกว่าแสนล้านบาทขึ้นไปนายบรรเจิดในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อกล้ายางพารา 90 ล้านต้น กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีนี้ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการไต่สวน ได้มีการประชุมหารือถึงกรณีที่ผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาบางราย ได้อ้างสิทธิขอให้คณะอนุกรรมการไต่สวนสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม รวมประมาณ 7-8 ราย เบื้องต้นที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาอย่างเต็มที่ คณะอนุกรรมการจะเชิญพยานตามรายชื่อที่ผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาอ้างถึง มาให้ข้อมูลประกอบการไต่สวนอีกครั้ง

'การสอบปากคำพยานเพิ่มเติม คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์

ซึ่งพยานที่จะเชิญมามีทั้งในส่วนข้าราชการ บริษัทเอกชน และเกษตรกร จากนั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนจะสรุปประเด็นการไต่สวนในคดี ทั้งหมดเสนอที่ประชุม คตส.ชุดใหญ่พิจารณาตามขั้นตอน หาไม่ติดขัดปัญหาอะไร คาดว่าในเดือนธันวาคมจะส่งคดีให้อัยการสูงสุดพิจารณาตามขั้นตอนได้' นายบรรเจิดกล่าว