ที่หอประชุมกิตติขจร กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.
ประธานการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ทั่วประเทศจนถึงผู้บังคับระดับกองพันจำนวน 660 คน เพื่อรับทราบการชี้แจงนโยบายการทำงานของกองทัพบกประจำปี 2551 โดยมี พล.อ.วีรวิทย์ คู สำราญ รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ธีระวัฒน์ บุญยะประดับ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ พล.อ. มนตรี ชมภูจันทร์ เสนาธิการทหารบก เข้าร่วมประชุม กันอย่างพร้อมเพรียง
ภายหลัง พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า
นโยบายในปีนี้ของผบ.ทบ. จะเน้นนโยบายขั้นพื้นฐานที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยนโยบายทั่วไปคือจะทำให้กองทัพบกเป็นสถาบันหลักของชาติและต้องปรับตัวเพื่อ รองรับภารกิจและภัยคุกคามรวมถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม จึงขอให้กำลังพลทุกคนระลึกอยู่เสมอว่าเป็นทหารของชาติและเป็นทหารของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจะทำให้คนรักและศรัทธา จะต้องยึดถือหลัก 2 ข้อดังกล่าวเพราะความ จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะทำให้เกิด ความสงบสุขสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ผ่านพ้น ไปได้และนำพาประเทศไปสู่ความเจริญ
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ผบ.ทบ. ได้มอบหมายนโยบายเฉพาะทั้ง 6 ด้านคือ
ด้านกำลังพล ผู้บังคับหน่วยจะต้องให้กำลังพลมีความพร้อม ในการทำงาน โดยให้หลักการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ควบคู่ไปกับหลักคุณธรรม โดยเฉพาะการบรรจุคน จะต้องคำนึงหลัก 3 ประการคือความมุ่งมั่น ความจงรักภักดีและขีดความสามารถ ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลกำลังพลชั้นผู้น้อยโดยเฉพาะนายทหารชั้นประทวน โดยจะมีนโยบายปรับปรุงอาคารที่พักของกำลังพลเป็นลำดับแรก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน การแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไป โดยถือเป็นวาระของกองทัพบก ที่ทุกหน่วยต้องรีบดำเนินการอย่างเร่งด่วน
รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า
ส่วนแนวทางการทำงานในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะยึดหลัก 3 แนวทาง คือแนวทางพระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ควบคู่ไปกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางของรัฐบาลโดยวิธีสันติและทำให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ และแนวทางตามเกาะติดเดิม ซึ่ง ผบ.ทบ. เน้นเรื่องการเกาะติดพื้นที่อย่างจริงจัง.