เขี้ยวโง้งเจอลากดิน!

อาจจะเป็นความเคยชินกับความหลังเมื่อครั้งวันวาน เคยเป็นอดีตนายฮ้อยคุมคาราวานวัวควาย วันนี้ “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เลยออกมาจุดพลุตลาดนัด ส.ส.ล่าสุด

ปั่นราคาขึ้นไปถึงหลัก 40 ล้านบาทต่อหัว เปรยแบบท้อๆ สุดท้ายพรรคประชาราชอาจจะมี ส.ส.เหลือแค่ 3 คน เหลือแต่ลูกหลานตระกูลเทียนทองในจังหวัดสระแก้ว เสือเฒ่าอย่าง “ป๋าเหนาะ” ถึงกับออกอาการถอดใจ และก็เป็นอะไรที่น่าจะอารมณ์ค้างมาจากรายการวงแตกของพรรคประชาราช โดนวิ่งราวนายทุนอย่างนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ไปต่อหน้าต่อตา ขาดเงิน ขาดรัก ลูกทีมชักแถวชิ่งหนี งานนี้เลยโดนทีเด็ดของ “ป๋าเหนาะ” ปาระเบิดขี้ใส่ เหม็นไปตามๆกัน

แต่อย่างไรก็ดี เท่าที่ตามเช็กดู จับกระแสค่าตัว 40 ล้าน ของผู้เฒ่าวังน้ำเย็น วันนี้ค่ายที่อู้ฟู่สุดอย่างพรรคพลังประชาชนก็ยังเงียบ

ไม่มีรายการปล่อยของลอตใหญ่ ยังอยู่ระหว่างเช็กกำลังพลที่ชัวร์จริงๆ แนวโน้มจะดึงไปจนนาทีสุดท้าย เงินไม่ใช่กระดาษ ใครจะยอมจ่ายง่ายๆ แต่ที่เขี้ยวสุดๆเลยก็คือ การจับเซ็นสัญญาเงินกู้ มีคนพูดกันปากต่อปากว่า ลูกพรรคมัชฌิมาธิปไตยของนายประชัยจะต้องมีภาพเป็นหลักฐานการรับปัจจัยสนับสนุน ยอมรับสภาพลูกหนี้ ป้องกันเบี้ยวภายหลัง ยิ่งรวยยิ่งเขี้ยว เจอมุกนี้เข้าไป นักเลือกตั้งอาชีพแสบถึงทรวงเลย


และนี่ก็คือเหตุผลหนึ่งที่นำมาซึ่งอาการวงแตก

ล่าสุดนายโสภณ เพชรสว่าง อดีต ส.ส.บุรีรัมย์ มือขวา ผู้ใกล้ชิดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้หอบเสื้อผ้าเผ่นหนีนายประชัย โผเข้าซบพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยเหตุผลลึกๆก็อย่างที่รู้กันเรื่องเงิน แต่ยังมีเหตุผลฉากหน้าที่นายโสภณอ้างสาเหตุที่ย้ายออกจากพรรคมัชฌิมาฯ เนื่องจากมีแนวคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างกับพรรคมัชฌิมาธิปไตย เพราะเดิมนายสมศักดิ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มมัชฌิมา ก่อนที่จะเป็นพรรคมัชฌิมาธิปไตย มีอุดมการณ์ในการทำงานตามทางสายกลาง

แต่เมื่อนายประชัยได้เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค กลับประกาศแบ่งขั้วชัดเจน


และยังได้มีการนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มเอ็นจีโอ ซึ่งเป็นผู้ขับไล่รัฐบาลชุดที่แล้วมาร่วมทำงานด้วย จากเหตุดังกล่าว ทำให้รู้สึกอึดอัดใจมาก จึงได้มาสมัครอยู่ กับพรรคเพื่อแผ่นดิน ขณะที่นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย ออกมาช่วยการันตีการลาออกของนายโสภณไม่ได้เกี่ยวกับข่าวซื้อตัว ส.ส.เพราะระดับนายโสภณไปอยู่พรรคไหนก็สอบได้อยู่แล้ว ซึ่งก็ขัดกันอย่างสิ้นเชิงกับความเห็นของนายประชัย ที่ด่าไล่หลังนายโสภณเป็นแค่เด็กอนุบาลที่ย้ายพรรคไปย้ายพรรคมา ไม่มีราคาจะให้ ความสนใจ ดีไม่ดีอาจสอบตกด้วยซ้ำ

“โสภณ” เก็บกระเป๋าชิ่งหนี “อนงค์วรรณ” ให้ท้าย “ประชัย” ไล่ส่ง สะท้อนร่องรอยร้าวๆระหว่าง “ประชัย” กับกลุ่มมัชฌิมา

อย่างที่รู้กัน ชื่อ “ประชัย เลี่ยวไพรัตน์” พะยี่ห้อศัตรูหมายเลขหนึ่งของเครือข่ายคนรัก “ทักษิณ” และวันนี้ก็อย่างที่เห็นๆ ค่ายมัชฌิมาธิปไตย ได้แปรสภาพ กลายเป็นฐานใหญ่ของแนวร่วมพันธมิตรม็อบไล่ “ทักษิณ” อย่าง “การุณ ใสงาม-อมร อมรรัตนานนท์-สำราญ รอดเพชร ฯลฯ” หรือแม้แต่นายสุริยะใส กตะศิลา ก็แว่วๆจะมีชื่ออยู่ในบัญชีผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วน โดยความเชื่อมั่นในศักยภาพของเครือข่ายพันธมิตรม็อบไล่ “ทักษิณ” จึงไม่แปลกที่ “ประชัย” จะให้ความสำคัญกับพวกที่หอบหิ้วกันมามากกว่าอดีตผู้แทนฯ

ในขณะที่นักเลือกตั้งกลุ่มมัชฌิมาต้องลงสนามในภาคอีสานและภาคเหนือ
พะยี่ห้อหัวหน้าค่ายแสลงหูฐานเสียง เดินหาแต้มยากแล้ว เงินที่ว่าหน้าตักหนายังควักยากอีก ชิ่งดีกว่า ยังพอมีเวลาหนีตาย.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์