นายกฯ รับหนักใจเลือกตั้ง หวั่นการซื้อสิทธิ์ขายเสียง

วันนี้ (20 ต.ค.) เวลา 08.00 น. ณ บ้านพิษณุโลก

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ใน รายการ "เปิดบ้านพิษณุโลก" ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ เป็นครั้งที่ 24 โดยมี นางสาวประวีณมัย บ่ายคล้อย เป็นผู้ดำเนินรายการ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกาเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่า


ตนได้ไปประชุมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาแล้ว ได้แนวทาง ได้สิ่งที่ทาง กกต. ต้องการที่จะให้ฝ่ายบริหารสนับสนุน และได้ออกเป็นมติคณะรัฐมนตรีไปแล้ว นั่นเป็นส่วนหนึ่งและตนได้ไปสั่งการ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือว่ามีหน้าที่รับผิดชอบที่จะต้องสนับสนุนการเลือกตั้งทั้งในส่วนภูมิภาค ทั้งในส่วนท้องถิ่น ก็ได้ไปสั่งการแล้ว ในส่วนของพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะดูในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ดูในเรื่องของป้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เป็นลักษณะของการประชาสัมพันธ์ว่า ทำอย่างไรเราถึงจะช่วยกันในการทำงาน ทั้งภาคประชาชนและภาครัฐจะช่วยกันอย่างไร ไม่ได้เป็นภาครัฐอย่างเดียว เราต้องการที่จะทำความเข้าใจและขอความร่วมมือ

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งมีอะไรที่หนักใจบ้าง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า

อยากจะให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม และไม่ให้มีการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงมาก เป็นเรื่องที่เราก็หนักใจ เพราะว่าวิธีการต่าง ๆ เกือบจะเรียกว่า เป็นสิ่งที่เป็นความเคยชินในวิถีทางทางการเมืองของเราว่า จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบากใจว่าทำอย่างไรที่จะให้พี่น้องประชาชนตระหนักถึงความจำเป็นที่เราจะต้องปรับปรุงวิธีการในการใช้สิทธิ์ใช้เสียงของเรา รวมทั้งผู้ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งคือพรรคการเมือง นักการเมือง ท่านจะมีส่วนร่วมในสิ่งเหล่านี้อย่างไร เพราะภาครัฐทำอย่างเดียวก็คือเรามีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ แต่ว่าผู้ที่จะต้องให้ความร่วมมือคือพี่น้องประชาชน และพรรคการเมือง นักการเมือง อย่างที่พูดกันคือว่า ในการซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้นเหมือนกับการตบมือ ต้องมีสองด้านถึงจะเกิดผล ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ นักการเมืองไปทำอย่างเดียวก็ไม่ได้ หรือถ้านักการเมืองไม่ทำ ประชาชนก็จะไปทำคนเดียวก็ไม่ได้ ฉะนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องของความร่วมมือ

“ส่วนประชาชน จะให้ความร่วมมือได้มากน้อยแค่ไหน ผมเองคิดว่า น่าจะมีความตื่นตัวและให้ความร่วมมือมากขึ้น แต่คงยังไม่สามารถจะประเมินได้ว่าจะเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ แต่มองภาพว่า ถ้าเรามีแนวทางในการที่จะพิจารณาว่าการเมืองข้างหน้าของเราจะเป็นอย่างไร เราจะพ้นจากสิ่งที่เราเรียกว่า เป็นวัฏจักรทางการเมืองออกไปได้อย่างไรก็อยู่ที่ความตื่นตัว ความร่วมมือของทางพรรคการเมือง ทางพี่น้องประชาชนด้วย ถ้าเราไม่สามารถจะทำตรงนี้ได้ ก็คงจะเป็นวังวนอยู่อย่างเดิม”
นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวถึงการสรรหานักการเมืองที่มีคุณภาพเข้ามาทำงานการเมืองว่า
 
กระบวนการคัดสรรอันนี้ก็เป็นหน้าที่ร่วมกัน หมายถึงว่า มีบรรยากาศทางการเมืองที่ดี และพรรคการเมืองเองก็มีส่วนที่จะคัดสรรนักการเมืองรุ่นใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพ ใช้คำว่า "คุณภาพ" ก็แล้วกัน คงไม่มีใครดี 100 เปอร์เซ็นต์ และเก่งไปทุกด้านคงเป็นเรื่องที่ลำบาก เป็นคนที่มีคุณภาพขึ้นมา เราก็จะสามารถที่จะหาบุคคลซึ่งมาทำงานการเมือง และบริหารบ้านเมืองของเราต่อไปข้างหน้าได้ แต่หากว่า ยังวนเวียนอยู่ในเรื่องของการที่จะทำให้เกิดความด่างพร้อย มีการป้ายสีกันไป ป้ายสีกันมา สาดโคลนกัน เป็นศัพท์ที่ใช้กันทางการเมือง ตนก็คิดว่าคงอยู่ในบรรยากาศเก่า ๆ ไม่มีอะไรใหม่ แต่หากว่า เราค่อย ๆ ปรับ และมีคนที่มีความรู้ มีความสามารถ มีความตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองซึ่งคิดว่ามี เราก็จะได้ผ่านพ้นห้วงเวลาเหล่านั้นไปได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์