เมื่อวันที่ 18 ต.ค. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ การแต่งตั้ง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี
เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ ว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง เนื่องจาก พล.อ.สนธิเคยประกาศจุดยืนจะจัดการกับกลุ่มอำนาจเก่าว่า อย่างที่เรียนแล้วว่าการทำงานเป็นการสนับสนุนให้กับ กกต. อำนาจในการตัดสินใจในแนวทางต่างๆอยู่ที่ กกต. ดังนั้นการทำงานของรัฐบาลก็อยู่ในกรอบที่ กกต.จะกำหนดไว้ และเป็นไปตามกฎหมายเลือกตั้ง คิดว่าในส่วนนี้คงเป็นการทำงานไปตามหน้าที่เท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.สนธิเข้าใจกรอบการทำงานตรงกับนายกฯหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ พล.อ.สนธิเคยให้ สัมภาษณ์ถึงเรื่องบันไดขั้นที่ 5, 6, 7, 8 พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า “เข้าใจครับ เข้าใจกรอบเหมือนกัน” เมื่อถามว่าเป็นกรอบในการทำหน้าที่ให้ข้อมูลเท่านั้นใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า “กรอบเดียวกันครับ กรอบเดียวกัน”
มท.ตั้งศูนย์ติดตามการเลือกตั้ง
นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจติดตามสถานการณ์การเลือกตั้ง โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็น ผอ.ศูนย์ และอธิบดีกรมการปกครองเป็นรอง ผอ.ศูนย์ มีหน้าที่ติดตามสถานการณ์การเลือกตั้ง ให้ความรู้กับประชาชน สรุปงานด้านการข่าว และวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง นอกจากนี้ขอให้กรมการปกครองเร่งตรวจสอบคุณภาพของอาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตยที่มีจำนวน 17.6 ล้านคน เพื่อให้พัฒนาคุณภาพให้มากขึ้น อย่าไปมุ่งอยู่แค่จำนวนเพียงอย่างเดียว
กกต.เล็งหลายจังหวัดน่าเป็นห่วง
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับองค์กรเอกชนว่า ได้ตั้งคณะกรรมการจากองค์กรเอกชน 9 องค์กร เพื่อร่วมตรวจสอบการเลือกตั้ง โดยให้ทั้ง 9 องค์กรตั้งตัวแทนขึ้นมาทำงานร่วมกันเพื่อตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม แล้วให้อำนาจองค์กรเหล่านั้นบริหารงบประมาณที่มีกว่า 73 ล้านบาท และจะประชุมร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 25 ต.ค. เพื่อกำหนดทิศทางการทำงานต่อไป ส่วนตัวประเมินว่าพื้นที่ที่น่ากังวลได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรปราการ แต่ก็ไม่แน่ เพราะน่าเป็นห่วงทุกพื้นที่