นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านการบริหารเลือกตั้ง แถลงภายหลังการประชุมว่า
ที่ประชุมได้วางหลักเกณฑ์การแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 157 เขต โดย กกต. มีมติประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งของ จ.ลพบุรีที่จะแบ่งเป็น 2 เขตเลือกตั้งได้เพียงจังหวัดเดียว โดยเขตหนึ่งมี ส.ส.ได้ 3 คน ประกอบด้วย อ.เมือง อ.บ้านหมี่ อ.พัฒนานิคม และ อ.ท่าวุ้ง และเขตที่ 2 มี ส.ส.ได้ 2 คน พื้นที่ประกอบด้วย อ.ชัยบาดาล อ.โคกสำโรง อ.ท่าม่วง อ.ท่าหลวง อ.ลำสนธิ อ.โคกเจริญ และ อ.สระโบสถ์ ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดอื่น กกต.จะประชุมในวันที่ 19 ต.ค.
เลือกตั้งล่วงหน้า 15-16 ธ.ค.
กกต.กล่าวต่อว่า หลักเกณฑ์การลงทะเบียน ของผู้ที่ประสงค์จะลงคะแนนนอกเขตจังหวัด สามารถยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.-22 พ.ย.
โดยใช้หลักฐานเพียงบัตรที่ทางราชการออกให้ มีรูปและมีเลขประจำตัว 13 หลัก เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องใช้สำเนาทะเบียนบ้านหรือหนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างเหมือนในอดีต ส่วนวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้ากำหนดวันที่ 15-16 ธ.ค. ในเวลา 08.00-17.00 น.
สำหรับการลงคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร กกต.กล่าวว่า
ประเทศที่ต้องจัดให้มีการลงคะแนน 65 ประเทศ มีสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ที่จะดำเนินการ 90 แห่ง โดยสถานทูตกำหนดระยะเวลาการลงทะเบียนในวันที่ 22 ต.ค.-22 พ.ย. ส่วนวันลงคะแนนจะอยู่ในช่วง 3-6 ธ.ค.แต่ละสถานทูตจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะเลือกวิธีการลงคะแนนแบบใดจาก 3 วิธีที่กฎหมายกำหนด คือ จัดคูหา ณ สถานที่ลงคะแนน จัดการลงคะแนนทางไปรษณีย์ หรือใช้รถโมบายเคลื่อนที่ไปอำนวยความสะดวก
นายประพันธ์ ยังกล่าวอีกว่า
ที่ประชุมยังมีมติมอบหมาย ให้ กกต.จังหวัด ผอ.กต.จังหวัด พนักงานฝ่ายปกครอง ตำรวจ หรือพนักงานสอบสวนเป็นผู้รับแจ้งจากประชาชนผู้ที่ได้รับเงินซื้อเสียง หากประชาชนที่รับเงินซื้อเสียงมาแจ้งต่อพนักงานดังกล่าวภายใน 7 วันนับแต่วันเลือกตั้ง จะไม่ต้องรับโทษ แต่หากผู้รับไม่นำมาแจ้งแล้วไปตรวจสอบพบ ผู้รับจะมีโทษจำคุก 5 ปี และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ขณะเดียวกันหากผู้แจ้งมุ่งหวังที่จะกลั่นแกล้งผู้สมัครจะมีความผิดฐานแจ้งเท็จที่มีบทลงโทษรุนแรงที่มีโทษจำคุก 10 ปี และอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี รวมทั้งหากพิสูจน์ทราบว่าพรรครู้เห็นกับการกระทำ ก็เข้าข่ายถูกยุบพรรคได้ เพราะถือเป็นความผิดด้านความมั่นคง.