กองทัพบกจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

พล.อ.อนุพงษ์กล่าวถึงการประกาศยกเลิกกฎ อัยการศึกในบางพื้นที่ว่า ในขั้นตอนของผู้ปฏิบัติพิจารณาผ่านแล้ว ทั้งในส่วนเหล่าทัพ และ สมช.ได้ให้ข้อพิจารณาไปแล้ว เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. หาก ครม.ว่าอย่างไรก็ว่ากัน เหล่าทัพไม่มีความเป็นห่วง จะมีความเป็นห่วงบ้างในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติดที่มีการเสนอเพิ่มมา เพื่อให้คงไว้ เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองมองว่าการใช้กฎอัยการศึกเป็นข้ออ้างทางการเมือง พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า ต้องถามพรรคการเมือง กองทัพไม่ได้ พิจารณาเกี่ยวกับเรื่องการเมือง เราพิจารณาการทำงานเกี่ยวกับความมั่นคง และการสกัดกั้นยาเสพติด ทั้งนี้ เราไม่ใช้กฎอัยการศึกไปยุ่งเกี่ยวกับความมั่นคงภายใน ส่วนการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน ออกไปอีก 3 เดือน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบันยังมีความจำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ดังกล่าว 

เมื่อถามว่า การดูแลความสงบเรียบร้อยภายใน โดยเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้ง กองทัพมีนโยบายดูแลอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า จุดยืนกองทัพบกจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ขณะนี้หากพูดการเมืองภาพกว้างดำเนินไปตามวิถีทาง หรือกลไกของภาวะทางการเมือง หากกองทัพบกเข้าไปยุ่งเกี่ยว ก็ภายใต้การสั่งการของรัฐบาลและ กกต.ร้องขอ เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งให้ไปได้ดี หากไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้กองทัพบกก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เมื่อถามว่า การให้ทหารเข้ามาช่วยดูแลฝ่ายการเมือง เกรงว่าจะไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจและสบายใจ ทำหน้าที่ประชาชนที่ดีในการเลือกและถูกเลือก เพื่อเข้ามาสู่อำนาจรัฐและใช้อำนาจรัฐ กองทัพก็จะทำหน้าที่ด้านความมั่นคง เช่น ยาเสพติด หลบหนีเข้าเมือง ภัยพิบัติ เป็นต้น จึงขอให้ประชาชนสบายใจ