สุรพงษ์ ยัน พปช.ไม่โดดเดี่ยว

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ประเมินผลตอบรับการปราศรัยใหญ่ของพรรคเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมว่า มีประชาชนมาร่วมเกินคาด เพราะก่อนหน้านั้นลังเลว่าอาจต้องตัดสินใจเลื่อนวันปราศรัย เพราะสภาพอากาศ เนื่องจากมีข่าวพายุเข้า เกรงว่าคนจะน้อย แต่พอถึงวันจริงมีผู้มาร่วมหลายหมื่นคน ก็เป็นกำลังใจให้หัวหน้าพรรคและผู้บริหารสมาชิกทั้งหมด ส่วนเนื้อหาเป็นการปรับทุกข์ปัญหาต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการปราศรัยครั้งต่อๆ ไปพรรคจะพูดถึงอนาคตของประเทศและประชาชน ที่จะคาดหวังได้ในการเลือกตั้ง คาดว่าจะนำสมาชิกพรรคปัจจุบันร่วมขึ้นเวทีเป็นสำคัญ 

ส่วนการขึ้นปราศรัยของอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยที่จะมาช่วยพรรคพลังประชาชนหาเสียง หลังจาก กกต.พิจารณาแล้วว่า การขึ้นเวทีของนายเนวิน ชิดชอบ ที่ จ.บุรีรัมย์ ไม่ผิดกฎหมายนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า อาจมีอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยบางคนขึ้นเวทีช่วยพรรคพลังประชาชนหาเสียงได้บ้าง แต่พรรคจะยึดผู้บริหารพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ชุดปัจจุบันเป็นหลัก โดยจะปฏิบัติตามกฎหมายเป็นหลัก ตอนนี้พรรคได้รับรองผู้สมัครเบื้องต้นได้แล้ว 300 คน 

กรณีที่บุคคลที่มีชื่อเสียงจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพิ่มเติมนั้นนพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า นักแสดงหลายคน เช่น กรุง ศรีวิไล แสดงความจำนงว่าจะลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคที่ จ.สมุทรปราการ และพรรคอนุมัติแล้ว ส่วน นายสายัณห์ สัญญา ตอนนี้ยังไม่ได้มาสมัคร 

นพ.สุรพงษ์กล่าวต่อว่า กรณีสมาชิกและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บางคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคนั้น ยอมรับว่าบางคนก็แสดงความจำนงไว้แล้ว เช่น นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ จะขอสมัคร ส.ส.ที่ จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ ที่มองว่าหากพรรครับ นปช.เป็นสมาชิกพรรคและให้ลงสมัคร ส.ส.อาจมีผลกระทบได้ ขอเรียนว่า นปช.เกิดขึ้นหลังจากที่พรรคไทยรักไทยโดนยุบ ตอนนั้นใครจะคิดและทำงานการเมืองตามแนวทางของตัวเองก็ย่อมได้ แต่หาก นปช.จะมาร่วมงานกับพรรคก็ต้องปฏิบัติตามมติและนโยบายพรรค คือยึดมั่นระบบรัฐสภา 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงถูกโดดเดี่ยวอยู่หรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เห็นท่าทีหลายพรรคเริ่มแสดงท่าทีที่บอกว่าอยากเห็นความปรองดองทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ โดยไม่พูดต่อว่าจะไม่ร่วมกับ พปช.เหมือนช่วงแรก ดังนั้นจากท่าทีที่เริ่มเปลี่ยนไป ก็คิดว่าประชาชนต้องการเห็นความปรองดองกัน 

วันนี้ผู้นำของเกาหลีเหนือและใต้เดินทางข้ามพรมแดนเพื่อจับมือกันและทำให้เกิดความปรองดองระหว่างผู้คนในชาติเพราะฉะนั้นผมเชื่อว่า วันนี้ประชาชนอยากเห็นความปรองดองเกิดขึ้นของทุกพรรคการเมืองและนักการเมือง นพ.สุรพงษ์ กล่าว 

ต่อข้อถามว่าหากพรรคได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง จะประกาศแนวทางจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้เราคงไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้เป็นคะแนนอันดับหนึ่งหรือไม่ แต่ถ้าได้เสียงจำนวนมากก็จะปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อประชาชน และคงร่วมมือกับพรรคที่มีนโยบายใกล้เคียงกัน 

ดักคอทหารแทรกแซงเลือกตั้ง

เมื่อถามว่ากังวลกับสิ่งที่พล.อ.สนธิเคยพูดไว้ว่าจะกันอำนาจเก่าหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า กังวล เพราะจากเหตุการณ์ในช่วงรณรงค์รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญได้เห็นชัดเจนว่า มีความพยายามเข้ามาแทรกแซงการลงคะแนนจากกลไกของหน่วยงานราชการหรือกลไกพื้นที่ทหารที่มีประกาศกฎอัยการศึก เพราะฉะนั้น หาก พล.อ.สนธิ ยังตั้งความหวังว่าจะให้กลไกทางราชการเข้ามาแทรกแซงกำกับดูแลการเลือกตั้งก็เป็นเรื่องน่าห่วง 

ส่วนกรณีที่พล.อ.สนธิระบุว่าจะกำชับหน่วยราชการและหน่วยงานในกำกับให้ดูแลการเลือกตั้งให้คนดีสามารถเข้ามาบริหารบ้านเมือง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า คำถามคือคนดีในความหมายของ พล.อ.สนธิจะตรงกับความหมายของประชาชนหรือไม่ ถ้าคนดีของ พล.อ.สนธิคือคนที่เชื่อฟัง พล.อ.สนธิ บอกให้รับร่างรัฐธรรมนูญที่พิกลพิการก็ทำ อย่างนั้นคงไม่ใช่คนดี 

เพราะเราตั้งคำถามไว้ว่าคนดีของ พล.อ.สนธิ กับคนดีในความหมายของประชาชนอาจไม่เหมือนกัน ก็ต้องกราบเรียนถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกฯ ว่า ที่ได้ประกาศอยากให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม อยากให้นายกฯ เป็นหลักในการทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรม และให้กำชับ พล.อ.สนธิ รองนายกฯ ให้ปฏิบัติตามนโยบายของนายกฯ ด้วย นพ.สุรพงษ์ กล่าว 

ยันไม่รับแพ็คเกจ"เฉลิม" แถมลูก

นอกจากนี้นพ.สุรพงษ์ ยังกล่าวถึงการยื่นข้อเสนอของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในการสมัครเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชาชนว่า จะต้องให้ นายวัน อยู่บำรุง บุตรชาย เป็นตัวแทนผู้สมัครของพรรคด้วยว่า ขณะนี้ ร.ต.อ.เฉลิม และบุตรชาย ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้ว แต่กระบวนการคัดเลือกก็ต้องเป็นไปตามระบบของพรรค ซึ่งมีความพยายามทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมือง จึงมีระบบงานที่แน่นอน เช่น การคัดเลือกตัวผู้สมัคร จะเลือกจากระดับจังหวัด ส่งมาระดับภาค และมายังคณะกรรมการบริหาร 

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ผู้สมัคร กทม.อยู่ในขั้นตอนคัดเลือกและรอประกาศเขตเลือกตั้ง ที่ กกต.จะประกาศในสัปดาห์หน้า เพราะเท่าที่ทราบก็ยังมีเรื่องที่แปลกใจ เช่น จะมีการเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งใหม่ เป็นเขตที่ยึดโยงแนวแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ข่าวออกมาว่าจะคร่อมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแปลกใจอยู่ว่า การกำหนดเขตเลือกตั้งจะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ ทั้งนี้ ส่งผลให้การกำหนดเขต กทม.ยังไม่ 100% แต่มีผู้สมัครมาก ดังนั้นจะต้องเป็นไปตามระบบ ไม่ใช่ขอมา หรือมีเงื่อนไขมา คงเป็นไปไม่ได้ ยังต้องผ่านการพิจารณาของภาค กทม.ก่อน 

ถ้าหากเงื่อนไขของร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะร่วมงานกับพรรคต่อเมื่อบุตรชายของท่านได้รับโอกาสในการลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชาชน ตรงนั้นคงเป็นเงื่อนไขที่เราไม่สามารถจะให้การรับรองได้ เพราะเรามีระบบคณะกรรมการที่เป็นผู้พิจารณา ดังนั้นเราไม่อาจจะรับรองหรือสัญญา และถ้าเงื่อนไขนั้นสำคัญจนเป็นเหตุที่ท่านไม่สามารถจะทำงานร่วมกับพรรคพลังประชาชนได้ ตรงนั้นก็เป็นเรื่องที่เราก็เสียดาย นพ.สุรพงษ์ กล่าว