แบม งงข่าว บรรหาร เขี่ยทิ้ง

กรณีที่มีข่าวว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย สั่งเจ้าหน้าที่พรรคไม่ให้ติดต่อประสานงานกับ น.ส.จณิสตา หรือแบม ลิ่วเฉลิมวงศ์ โฆษกพรรคชาติไทย เพราะไม่พอใจที่ น.ส.จณิสตาไม่ค่อยเข้าประชุมพรรคและไม่ลงพื้นที่

ทั้งยังมีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์แอบทาบทาม น.ส.จณิสตาไปอยู่ด้วยนั้น เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ต.ค. ที่พรรคชาติไทย น.ส.จณิสตา เปิดแถลงข่าวว่า

ยังรู้สึกงงกับข่าวที่เกิดขึ้น ว่าประเด็นนี้มาได้อย่างไร ข้อเท็จจริงที่หายไป 3 สัปดาห์ เพราะเดินทางไปดูงานรณรงค์การเลือกตั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามคำเชิญของสถานทูตสหรัฐฯ กลับมาเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยวันที่ 10 ต.ค. ก็เข้าร่วมประชุมพรรคตามปกติ ส่วนเรื่องการไม่ลงพื้นที่ก็ไม่เป็นความจริง เพราะมีทีมงาน ส.ก.เขตดอนเมืองอยู่แล้ว ยืนยันว่าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

สำหรับเรื่องการถูกทาบทามจากพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าไม่มีมูลเลย

 ไม่มีการพูดคุยจากผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ หากถามว่าเคยมีการพูดคุยทาบทามเล่นๆหรือไม่ว่าเมื่อไหร่จะมาอยู่ด้วย อันนี้มีตลอด ตั้งแต่ช่วงที่เป็น ส.ส. เพราะเราสนิทกันในฐานะเป็นเพื่อนร่วมงานในสภา แต่ทุกคนรู้จุดยืนของตนดีว่าลงสมัครพรรคชาติไทยแล้ว 2 ครั้ง
  

กรี๊ดลั่นคนในพรรคจ้องทำลาย
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หัวหน้าพรรคไม่พอใจกับการที่ไปสหรัฐฯ ใช่หรือไม่ น.ส.จณิสตาตอบว่า

ยังไม่ได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรค จึงอยากให้หัวหน้าพรรคพูดเองมากกว่า ที่ผ่านมาการไปร่วมกิจกรรมทุกครั้งก็ไม่เคยขออนุญาตทางพรรคเลย เมื่อถามว่าระยะหลังความสัมพันธ์กับพรรคและหัวหน้าพรรคยังเหมือนเดิมหรือไม่ น.ส.จณิสตาตอบว่า ยังเหมือนเดิม ก่อนไปสหรัฐฯ ก็ยังได้เจอกับหัวหน้าพรรค และคุยว่าเขตดอนเมืองยังไม่ทราบว่าจะไปรวมกับเขตไหนบ้าง และมองหาผู้สมัครที่จะมาพูดคุยกัน ปกติดี ก็ไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวที่ออกมาเกิดจากอะไร น.ส.จณิสตาตอบว่า คาดเดาลำบาก แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ออกมาในแนวของการทำลายความนิยมว่าพรรคจะไม่เอาเรา คงทำได้อย่างเดียวคือชี้แจง เมื่อวานนี้เจอหัวหน้าพรรคก็ไม่ได้คุย แต่ท่านให้ ผอ.พรรคโทรศัพท์มาบอกว่าวันที่ 15 ต.ค.จะขอเจอก่อนเข้าประชุมพรรค แต่ไม่รู้จะมีประเด็นอะไรบ้าง ซึ่งคงจะได้คุยกัน รวมทั้งเรื่องนี้ด้วย ก็คงอยากจะทราบเหมือนกัน
  

รอฟังจากปาก หน.ก่อนตัดสินใจ
 

เมื่อถามว่าถ้าไม่ได้ลงเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขตหรือระบบสัดส่วน ยังจะอยู่พรรคชาติไทยหรือไม่ น.ส.จณิสตาตอบว่า

ต้องดูความสบายใจว่ามีอะไรให้อึดอัดใจหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ยังถือว่าน้อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจกันระหว่างผู้นำของพรรคกับตน ซึ่งเป็นผู้น้อย “การที่จะทำให้แบมย้ายพรรคน่าจะเป็นความอึดอัดใจและการเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่เขามองว่าเราไม่สามารถทำประโยชน์ให้กับพรรคได้ แบม พูดคำไหนก็คำนั้น บอกไม่แน่ก็คือไม่แน่ แน่ก็แน่ แต่หากวันจันทร์ (15 ต.ค.) หัวหน้าพรรคบอกว่า ไม่ให้แบมลงสมัคร ส.ส.ดอนเมืองของพรรคชาติไทย แบมก็ต้องปรับใหม่ เพราะเราไม่สามารถเป็นคนกำหนดได้ ก็ต้องคุยกับท่าน แต่ลึกๆ เท่าที่แบมได้สัมผัสมา ท่านเป็นคนมีเหตุผล เพราะแบมไม่ได้ทำอะไรผิดรุนแรง จนไม่ให้ลง ส.ส.” น.ส.จณิสตากล่าวทิ้งทาย ก่อนเดินไปขึ้นรถเบนซ์ สีขาวเปิดประทุน ป้ายแดง ขับออกจากพรรคโดยทันที
 

“เติ้ง” ยันส่ง “แบม” ลงเลือกตั้ง
 

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเปิดสาขาพรรคชาติไทยที่ จ.หนองบัวลำภูว่า

 เรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเดิมตั้งใจให้ น.ส.จณิสตาลงสมัคร ส.ส.คู่กับลูกของนางปวีณา หงสกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ในเขตหลักสี่ ดอนเมือง สายไหม ในนามพรรคชาติไทย และเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้กำหนดให้สมาชิกพรรคมาถ่ายรูปเพื่อใช้ในการหาเสียง จึงให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ ไปเช็กว่า น.ส.จณิสตากลับมาจากสหรัฐฯหรือยัง ยืนยันว่าจะส่ง น.ส.จณิสตาลงสมัคร ส.ส.แน่นอน และต้องอยู่ พรรคชาติไทย เพราะทำงานดี ส่วนในวันที่ 15 ต.ค.นี้ก็นัด น.ส.จณิสตามาคุยเพื่อหารือกับนางปวีณาเกี่ยวกับการส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงเขตดังกล่าว

ลั่นไม่ยอมให้ใครชิงตัวไป
 

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าไม่พอใจ น.ส.จณิสตาที่เดินทางไปประเทศสหรัฐฯ นายบรรหารตอบว่า

 เรื่องนี้ไม่มีอะไร สถานทูตสหรัฐฯเชิญให้พรรคชาติไทยส่งตัวแทนไปดูงาน จึงนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุม ผู้ใหญ่ในพรรคก็มีมติว่าไม่น่าส่งใครไปเพราะใกล้เลือกตั้งแล้ว แต่บังเอิญทางสถานทูตไปเชิญ น.ส.จณิสตาไปดูงานโดยตรงแล้ว น.ส.จณิสตามาขออนุญาตไป ก็ไม่มีอะไร “ก็ดี มีข่าวออกมา จะได้ไม่ต้องซื้อสื่อโฆษณา มีคนลงข่าวพรรคชาติไทยให้ อย่างคุณแบมนี่กว่าผมจะคุยให้เขาอยู่พรรคชาติไทยได้ลำบากยากเย็น ใครจะมาเอาไปก็ไม่ยอมแน่นอน”
 

ปชป.บุกอีสานขอฝากเนื้อฝากตัว
 

อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 09.00 น. พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดงาน “ประชาธิปัตย์คืนถิ่นอีสาน” ที่วัดหนองแวง

ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรคเช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค นายวิฑูรย์ นามบุตร นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งสมาชิกสาขาพรรคและประชาชนกว่า 400 คน เดินทางมาร่วมงาน เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษที่ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ นายฟอง สิทธิธรรม นายเลียง ชัยกาล อดีต ส.ส.อุบลราชธานี นายบุญช่วย อัตถากร และหลวงอังคณานุรักษ์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม จากนั้นได้มีการประกอบพิธีบายศรีสู่ขวัญให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำพิธีฝากเนื้อฝากตัวพรรคประชาธิปัตย์ ต่อประชาชนชาวอีสาน
 

ดึงอดีต ส.ว.ลงชิงพื้นที่
 

นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า

การลงพื้นที่ จ.ขอนแก่นครั้งนี้เพื่อเยี่ยมเยือนชาวอีสาน และในวันที่ 13 ต.ค.นี้พรรคประชาธิปัตย์จะจัดสมัชชาประชาชนระดมความเห็นจากบุคคลสาขาอาชีพต่างๆกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนในภาคอีสานให้ความสนใจกับเรื่องของนโยบายมากกว่าตัวบุคคล ส่วนการสรรหาตัวผู้สมัคร ส.ส.นั้น หลังจาก กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว จะได้ความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคอีสานจะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ มาจากอดีต ส.ว. และอดีตข้าราชการ
 

ปัดข่าวแอบย่องทาบทาม “แบม” 

นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.จณิสตา ลิ่มเฉลิมวงศ์ โฆษกพรรคชาติไทย อาจจะย้ายมาอยู่พรรคประชาธิปัตย์ว่า

ไม่เคยได้ยินข่าวนี้มาก่อน เพิ่งทราบจากหนังสือพิมพ์ พอถามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคหลายคนว่ามีเรื่องนี้ด้วยหรือ แต่ก็ไม่มีใครทราบเรื่อง เราให้เกียรติกัน คงไม่ไปคิดแย่งตัวคนนั้นคนนี้ เว้นแต่มีคนแสดงความจำนงแน่วแน่ที่จะมาร่วมงานกับเรา แต่ไม่ใช่ว่าจะไปดึงหรือไปทาบทาม การคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ กทม.มีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ในฐานะรองหัวหน้าพรรค เป็นผู้พิจารณา ซึ่งมีคนใหม่ๆเข้ามา แต่ไม่ใช่มาจากพรรคอื่น
 

“สุวิทย์” ตั้ง “พินิจ-ปรีชา” เป็นกุนซือ
 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อแผ่นดินว่า

 นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เตรียมจะตั้งนายพินิจ จารุสมบัติ นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เป็นที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยนายพินิจและนายปรีชาจะช่วยดูแลพื้นที่การเลือกตั้งทั่วประเทศ ส่วนนายสุรนันทน์จะช่วยดูแลพื้นที่เลือกตั้ง กทม. รวมทั้งการรณรงค์หาเสียงและประชาสัมพันธ์ นอกจากนั้น จะมีการแต่งตั้งนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เป็นประธานสภาวิชาการของพรรคเพื่อแผ่นดิน ทำหน้าที่ประสานกับเครือข่ายนักธุรกิจและนักวิชาการ ซึ่งถือเป็นคลังสมองของพรรค
 

“เสนาะ” ประกาศปั้น “กร” เป็นนายกฯ
 

นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช แถลงผลการประชุมพรรคว่า

ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเอกฉันท์ที่จะสนับสนุนนายกร ทัพพะรังสี รองหัวหน้าพรรคประชาราช เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเพียบพร้อมทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ เคยผ่านการรับผิดชอบงานในตำแหน่งสำคัญๆมากมาย มีประสบการณ์ทางการเมืองมากว่า 8 สมัย เคยเป็นรองนายกฯและรัฐมนตรี เข้าใจสภาพสังคมไทยเป็นอย่างดี สามารถประสานงานร่วมกับผู้นำต่างประเทศทั่วโลกได้ ไม่มีประวัติภูมิหลังที่เสื่อมเสีย ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน รวมทั้งเป็นทายาททางการเมืองของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าหากนายกรได้เป็นนายกฯ จะอุทิศตนทำให้ประเทศชาติกลับเข้าสู่สภาวะปกติ จึงขอให้ประชาชนพิจารณาไว้วางใจพรรคประชาราชให้เข้ามาบริหารแผ่นดินเพื่อนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติ
 

ชูจุดเด่นคุณสมบัติเพียบ
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจแค่ไหนว่าจะชูนายกรให้เป็นนายกฯได้ นายเสนาะตอบว่า

ครั้งนี้ยอมรับว่าอาจไม่ถึง 100% แต่ก็มั่นใจสูง เพราะการชูคนเป็นผู้นำประเทศต้องดูทุกส่วน หากคนของเรามีความพร้อม เราก็จะนำเสนอ เชื่อว่านายกรมีความสำนึกต่อแผ่นดินไม่คิดคดทรยศ

ด้านนายกร กล่าวว่า

ขอขอบคุณนายเสนาะที่มอบความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ดังกล่าว วันนี้ถึงเวลาเหมาะสมที่พรรคประชาราชต้องประกาศชูบุคคลที่เป็นนายกฯเช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่น เพื่อนำไปเปรียบเทียบคุณสมบัติกัน โดยขณะนี้บางพรรคที่ประกาศตัวออกมาได้ตั้งธงไว้แล้ว เช่นจะเอานั้นหรือจะยกเลิกนี้ ขณะที่พรรคประชาราชยืนยันว่ามีอยู่ธงเดียวคือธงไตรรงค์ มุ่งเน้นทำประโยชน์เพื่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ “ประสบการณ์ ทางด้านการเมืองที่เคยเป็น ส.ส.มา 8 ครั้ง สะสมมาทั้งเรื่องดีหรือไม่ดี ประกอบกับผลงานการบริหารชาติทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ จะนำมาใช้ในการบริหารประเทศได้ ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นประสบการณ์ ของผมและอุดมการณ์ของพรรคประชาราช”
 

“ประชัย” โวจะช่วยเกษตรกรร่ำรวย
 

ที่อาคารทีพีไอ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ว่าที่หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงนโยบายพรรคในด้านการเกษตรว่า

พรรคต้องการให้ประชาชนและเกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยจะประกันราคาข้าวเจ้าในราคาเกวียนละ 10,000 บาท ข้าวเหนียวเกวียนละ 11,000 บาท ข้าวหอมมะลิเกวียนละ 12,000 บาท อ้อยตันละ 900 บาท และหากเกษตรกรโดนรังแก เช่น เรื่องที่ดิน เราจะให้โฉนดที่ดิน หากมีปัญหาน้ำขาดแคลน เราจะสร้างฝายกักเก็บน้ำ และส่งเสริมการขุดบ่อ 9 ล้านบ่อ ดูแลการพักหนี้ ประกันพืชผลและสัตว์เลี้ยงหากประสบภัยธรรมชาติ เมื่อทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี ปัญหาอาชญากรรมจะลดลง พรรคมัชฌิมาธิปไตยจะทำให้เกษตรกรร่ำรวย ประชาชนได้รับความเป็นธรรม สร้างความสุขด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ก่อนที่นายประชัยจะขึ้นมาแถลงข่าว ปรากฏว่านายประชัยเดินสะดุดขอบเวทีอย่างแรง จนเกือบล้มลงฟาดกับโต๊ะแถลงข่าว แต่โชคดีที่ทีมโฆษกพรรคช่วยพยุงตัวไว้ทัน 

เผยกลุ่มวาดะห์ขอมาอยู่ด้วย

นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ว่าที่เลขาธิการพรรคมัชฌิมาธิปไตย เปิดเผยว่า

สำหรับกลุ่มวาดะห์ทั้ง 8 คน ที่เคยสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาราช ขณะนี้ได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาราช และแจ้งความประสงค์ ขอมาอยู่กับพรรคมัชฌิมาธิปไตยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นยังมีอดีต ส.ส.ภาคใต้อีกจำนวนมากที่ประสานมายังนายประชัยเพื่อขอร่วมเป็นสมาชิกพรรค ส่วนการแบ่งพื้นที่หาเสียงนั้นเราจัดสรรเรียบร้อยแล้ว ตนจะรับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือโดยเฉพาะ จ.สุโขทัย ส่วนจะลงสมัคร ส.ส.ในแบบสัดส่วนหรือแบบเขตคงต้องรอดูอีกครั้ง
 

แหล่งข่าวจากพรรคมัชฌิมาธิปไตยเปิดเผยว่า

ขณะนี้ทางพรรคกำลังเจรจาทาบทาม พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ให้มาร่วมงานการเมือง โดยจะให้ทั้ง 2 คนเคลียร์ปัญหาความไม่เข้าใจที่มีต่อกันให้เรียบร้อยก่อน