ลั่นไม่เป็นเครื่องมือใครสมเจตน์มั่นใจกลาโหมรวบแก๊งแบตเตอรี่ได้

พล.อ.สมเจตน์ เชื่อ รมว.กลาโหม จะหาคนผิดที่ทำให้องค์การแบตเตอรี่ขาดทุนได้ ลั่นไม่เป็นเครื่องมือใคร ไม่ใช่ประเด็นการเมือง ด้าน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ยืนยันบริหารงานซื่อสัตย์ ข้องใจข้อมูลหลุดให้สื่อ

พล.อ.สมเจตน์บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม จะตั้งกรรมการสอบสวนกรณีการบริหารงานขององค์การแบตเตอรี่ ในสมัยที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน เป็นประธานกรรมการ ว่า  เรื่องนี้จบแล้ว คงไม่มีการไปยื่นเรื่องให้มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการ 

แต่เชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะดำเนินการต่อไปเอง 

เพราะหลักฐานมีน้ำหนัก และข้อมูลสามารถไปตรวจสอบได้ เพราะเป็นข้อมูลของทางราชการ ไม่ได้เป็นข้อมูลลับหรืออะไรทั้งสิ้น ส่วนผลการสอบสวนจะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกจากราชการหรือไม่นั้นพล.อ.สมเจตน์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระทรวงกลาโหมที่จะดำเนินการสอบสวน ตนเชื่อในขีดความสามารถที่จะเอาคนผิดมาลงโทษได้ และขอยืนยันว่า การออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ ไม่ใช่ต้องการให้เกิดประเด็นทางการเมือง แต่เมื่อพบเห็นความไม่ชอบมาพากล และผิดปกติไม่ชอบธรรม ก็ต้องเอามาเปิดเผย

ตอนที่ผมอภิปรายผมไม่ได้กล่าวว่าเป็นความผิดของใคร แต่ชี้ว่าเป็นที่น่าสังเกต 

และควรไปตรวจสอบการบริหารว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ส่วนจะเอาผิดถึงกับออกราชการ ผมไม่ทราบ ให้ขึ้นกับกระทรวงกลาโหม และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะผมไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นทหารอาชีพ ทำอะไรตรงไปตรงมา ทำบนพื้นฐานผลประโยชน์ประเทศชาติ 

ตนไม่เคยเป็นเครื่องมือใคร ไม่เคยคิดเอาประเด็นนี้เป็นประเด็นการเมือง แต่อยากเสนอให้ประชาชนทราบว่า การบริหารเช่นนี้ทำให้กิจการเสีย และข้อมูลที่ตนมีหลายส่วน พนักงานแบตเตอรี่ส่งข้อมูลมาให้ตนทางไปรษณีย์ เมื่อตรวจสอบว่าเป็นข้อมูลถูกต้อง ตนก็นำเอาไปอภิปราย" พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

ด้าน พล.ร.อ.บรรณวิทย์ กล่าวว่า ยี่ห้อบรรณวิทย์ซื่อสัตย์เป็นอันดับ 1  

ไม่เช่นนั้นไม่มาตรวจสอบอย่างนี้ แต่ตนสงสัยว่า ในการอภิปรายรัฐบาล เกิดเรื่องนี้มาได้อย่างไร และอภิปรายในช่วงดึกที่หนังสือพิมพ์ปิดไปแล้ว แต่มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงข่าวการยุบองค์การแบตเตอรี่ มีมาก่อนสมัยที่ตนเข้าไปบริหาร เราทำแบตเตอรี่ให้รถถังและรถไฟ เมื่อมาถึงสมัยตนแล้วขาดทุนนั้น มติ ครม. รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ขึ้นเงินเดือนพนักงาน ร้อยละ 5 บวก 2 ขั้น เจอดาบสองเข้าไป เพราะ ครม.ชุดที่แล้วยกเลิก ไม่ต้องให้ราชการซื้อผลิตภัณฑ์จากรัฐวิสาหกิจ องค์การแบตเตอรี่ก็ยิ่งแย่