อนุพงษ์ ยันซื้อรถหุ้มเกราะโปร่งใส

การจัดซื้อแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การดำเนินการตามแผนการเสริมสร้างกองทัพ และการจัดหาในเรื่องความต้องการของยุทธการ ที่ได้กำหนดคุณสมบัติที่เรียกว่าสเปก ก็มีปัญหา เพราะผู้ที่ไม่ได้เขาก็ร้องเรียน เราทำตามขั้นตอนตามระเบียบทุกประการ ขอยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดผิดพลาดในลักษณะทุจริต ที่กล้ายืนยันก็เพราะกองทัพบกรู้ดีว่าเราต้องการอาวุธอย่างไรที่เป็นประโยชน์มากที่สุด

“ความเป็นจริงเราได้พิจารณาอย่างถ่องแท้แล้วว่า รถที่เราต้องการเป็นรถที่มีคุณสมบัติดี หลายคนก็ไปวิจารณ์กันว่าเป็นรถเก่า ผมขอยืนยันว่าเป็นรถใหม่ รับรองได้ว่าคงไม่ไปซื้อรถเก่าหรือรถที่ใช้แล้วมาโดยเด็ดขาด รถที่ได้ผ่านการขออนุมัติจัดซื้อเป็นรถที่ดีเหมาะสม เครื่องยนต์เราก็เลือกเครื่องยนต์ของเยอรมัน ระบบสื่อสารก็ใช้รุ่นเดียวกับที่กองทัพบกใช้อยู่ทุกอย่าง จะมีเฉพาะระบบอาวุธและระบบล้อ ตัวถังเท่านั้นที่เป็นของยูเครน ในขั้นนี้ไม่ถือว่าเป็นข้อครหา จะซักฟอกอย่างไรก็แล้วแต่ ผมขอยืนยันว่าเป็นรถที่มีคุณสมบัติที่ดีและถูกที่สุดในจำนวนรถทั้งหมด” พล.อ.อนุพงษ์กล่าว 

เมื่อถามว่าการประกาศเสนอซองประมูลปิดไปแล้ว แต่บริษัทยูเครนเสนอทีหลัง พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า การจัดซื้อจัดจ้าง ต้องว่าตามระเบียบทุกอย่าง ไม่ใช่เปิดซอง แต่เป็นการขอข้อมูลรายละเอียด อย่าเอาไปยุ่งกับการจัดซื้อการเปิดซอง ถ้าเปิดซองแล้วนำกลับไปปิดซองอีกถือว่าผิด แม้ขณะนี้ถ้าเกิดข้อสงสัยไปหาข้อมูลเพิ่มก็ยังได้ ตรงไหนที่ทาง สนช.สงสัยก็บอกมาเราไปชี้แจง

เมื่อถามว่าการเสนอข้อมูลไม่ใช่การยื่นซองประกวดราคา

พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า ไม่ใช่การยื่นซองเสนอราคา เป็นการ หาข้อมูลเฉยๆ อย่าเอาเรื่องการยื่นซองหรือการประกวด ราคามาเกี่ยวข้องกัน ขณะนี้ไม่มีการยื่นซอง เนื่องจากเป็นการซื้อของรัฐบาลไทย รัฐบาลยูเครนจึงต้องเจรจากับกองทัพไทย เมื่อถามว่าการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการซื้อรถหุ้มเกราะยูเครนจะส่งผลกระทบให้การทำงานของกองทัพหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า ยืนยันว่าถือเป็นการเสียโอกาส เพราะการซื้อรถจำเป็นที่จะต้องมี ส่วนจำเป็นแค่ไหนอย่างไรสามารถชี้แจงได้ว่าเหตุใดจึงจำเป็นต้องซื้ออาวุธชนิดนี้

“ถือว่าเป็นสิ่งดีที่สังคมจะช่วยกันตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนหรือ สนช. เพราะเป็นกลไกของสังคมที่จะต้องดูแลกัน ดีกว่าการไม่พูดกันแล้วมาครหากันทีหลัง ผมคิดว่าดี และถ้าหาก สนช.สงสัย ทางกองทัพมีข้อมูลทุกอย่างเตรียมพร้อมที่จะเปิดเผย” ผบ.ทบ.กล่าวในที่สุด