องคมนตรีไม่รับความคุ้มครองเพิ่ม

โดยให้เพิ่มระดับความคุ้มครองมากขึ้นจากเดิมที่กฎหมายให้ความคุ้มครองในระดับเดียวกับบุคคลทั่วไปนั้น เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะองคมนตรีได้ประชุมพิจารณาถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมีมติเอกฉันท์ว่า การดำเนินการแก้ไขกฎหมายของ สนช.นั้น เป็นสิทธิของ สนช.ที่สามารถกระทำได้ คณะองคมนตรีไม่ขัดข้องที่จะมีการแก้ไขกฎหมายให้ความคุ้มครองพระราชโอรส พระราชธิดา แต่ในส่วนที่จะมีเรื่องมาเกี่ยวข้องกับองคมนตรีนั้น ทางคณะองคมนตรีไม่ขอรับความคุ้มครองนี้ เพราะกฎหมายอาญาที่มีอยู่ก็พอเพียงแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณ  ในความหวังดีของคณะ สนช.

นายพรเพชร วิชิตชลชัย สมาชิก สนช. แกนนำคณะผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา และร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ให้เพิ่มโทษความผิดกรณีการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระราชโอรส พระราชธิดา ประธานองคมนตรี องคมนตรี และผู้แทนพระองค์แถลงว่า ได้ขอถอนร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับออกจากวาระการประชุม แม้เดิมนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมในวันที่ 10 ต.ค.แล้วก็ตาม เนื่องจากเมื่อมีการนำเสนอข่าวแล้วคณะองคมนตรีได้หารือกัน จากนั้นองคมนตรีที่รู้จักกับตนโทรศัพท์มาแจ้งว่า คณะองคมนตรีไม่ค่อยสบายใจที่ตนและคณะเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเพื่อคุ้มครององคมนตรีเป็นพิเศษ และไม่ต้องการรับความคุ้มครองนี้ แต่ไม่ขัดข้องในการคุ้มครอง พระบรมวงศานุวงศ์ ดังนั้น จึงขอถอนร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ ออกจากวาระการประชุม เพื่อสนองตอบองคมนตรี ส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระบรมวงศานุวงศ์นั้น จะกลับไปพิจารณาดูเนื้อหาอีกครั้งว่าจะมีความจำเป็นแค่ไหน