ประสงค์ แลกหมัด บิ๊กแอ้ด ลั่นไม่เคยขอเพื่อตัวเอง

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรม จริยธรรม แก่นักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงข่าวเปิดใจภายหลังถูกนายกรัฐมนตรีพาดพิง ว่า

เคยขอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการบางอย่างในอดีต โดยยืนยันว่า ตลอดอายุการทำงานที่ผ่านมาไม่เคยขออะไรเพื่อประโยชน์ของตนเอง พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงให้ชัดเจน ถึงกรณีที่เปิดประเด็นเอาไว้ ทั้งนี้ ยังระบุด้วยว่า คำพูดของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นเหมือนการพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เช่นเดียวกับที่เคยทำกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี มาก่อน ทั้งที่ตนนั้นมีความหวังดีกับนายกรัฐมนตรีตลอด แม้ในช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีเคยตกอับภายในกองทัพ จนกระทั่งมีจุดยืนจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม พร้อมให้นายกรัฐมนตรีเข้าพบเพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจ

ทั้งนี้ น.ต.ประสงค์ ยังยืนยันด้วยว่า

การทำหน้าที่ของตนนั้นเป็นไปตามหน้าที่ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และความไม่พอใจที่เกิดขึ้นก็มาจากความไม่พอใจที่รัฐบาลไม่สามารถบริหารงานให้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนได้ และยืนยันว่า การยื่นญัตตินั้นมีสาเหตุมาจากที่มีปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นของรัฐมนตรี ไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว

น.ต.ประสงค์  กล่าวต่อว่า

ตนมีความหวังดีกับนายกรัฐมนตรีมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในกองทัพ และตกอับไปอยู่ในตำแหน่งประจำ ก็ช่วยจนมาอยู่ในตำแหน่งหลัก ส่วนการทำงานในฐานะรัฐบาลก็ได้แนะนำให้ปรับปรุง แต่ไม่ทำ ซึ่งหากให้ประเมินก็จะเป็นอย่างที่เคยพูดไว้ว่า สอบตกทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ และเชื่อว่าความเห็นจะสอดคล้องกับประชาชนที่มองว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานของรัฐบาลไม่มีสิ่งใดเป็นรูปธรรม จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบรัฐบาล และการยื่นสอบจริยธรรม ในฐานะของกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรม จริยธรรมแก่นักการเมือง ไม่ใช่เกิดจากความไม่พอใจ หรือโกรธเคือง

 ส่วนการที่นายกรัฐมนตรียืนยันไม่มีการล็อบบี้ให้ สนช.ถอนชื่อ น.ต.ประสงค์ ได้โต้ว่า

นายกรัฐมนตรีอาจไม่ได้ทำ แต่ก็ขอให้ตรวจสอบว่ามีคนของนายกรัฐมนตรีทำหรือไม่ พร้อมกันนี้ ได้เรียกร้องให้ระบุให้ชัดเจนว่าที่ผ่านมาตนเคยขอสิ่งใด เพราะยืนยันว่าไม่เคยขอ

น.ต.ประสงค์ ยังกล่าวถึงงการที่นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศว่าเป็นโจรกลับใจ ว่า

เพิ่งทราบ แต่ที่ผ่านมามองว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนดี ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าที่ผ่านมาไปปล้นใคร และเห็นว่าจะประกาศอย่างเดียวไม่ได้ ควรนำสิ่งที่ได้มาคืนให้เจ้าของ หรือแม้สิ่งใดที่ทำผิดกฎหมายต้องปรับปรุง ทั้งนี้ เรื่องกรณีทำผิดกฎหมายก็จะมีการอภิปรายใน สนช.ด้วย