นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทีมทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวว่า
พ.ต.ท.ทักษิณเตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ สมาชิกพรรคมัชฌิมาประชาธิปไตย ที่ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์ กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณว่าขายชาติ โดยระหว่างนี้ทีมทนายความกำลังหารือถึงแนวทางการฟ้องร้องต่อไป
ทางด้านนายประชัยกล่าวว่า
ที่ผ่านมาก็มีเรื่องฟ้องร้องกันมากอยู่แล้ว ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร และยินดีหากทีมทนายของอดีตนายกฯต้องการจะฟ้อง เพราะก็อยากให้มาพิสูจน์กันเสียทีว่าสิ่งที่พูดไปนั้นจริงหรือเปล่า ส่วนการทำงานการเมืองที่ออกมาร่วมงานกับพรรคมัชฌิมาธิปไตยนั้น ในวันจันทร์ที่ 8 ต.ค.นี้ ประมาณ 10.00 น. ก็จะมีการหารือกันในพรรค โดยรายละเอียดของการกำหนดหน้าที่หรือตำแหน่งต่างๆ เช่น หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค น่าจะมีความชัดเจนภายในวันที่ 8 ต.ค. นี้
คตส.ไม่สนคำท้า “ทนายทักษิณ”
นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการออกสลากเลขท้ายชนิด 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน กล่าวถึงกรณีที่ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ท้า คตส.ดีเบตผ่านสื่อมวลชน ในการแจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะกรณีการออกหวยบนดิน โดยระบุว่า
หาก สนช.ผ่านกฎหมายการออกหวยบนดินแล้ว คตส.ยังจะอายัดทรัพย์และเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณอีกหรือไม่ว่า ก็เป็นเรื่องที่เขาจะพูดอะไรอย่างไรก็ได้ ให้เขาพูดไป คตส.ทำตามหน้าที่ในกรอบของกฎหมายที่มอบอำนาจมาให้ ส่วนกรณีที่ทาง สนช.จะเอากฎหมายเรื่องนี้เข้าสภานั้น ก็เป็นความพยายามของรัฐบาลและ สนช. ที่จะทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนดอย่างแท้จริง เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลที่แล้วทำไว้ เขาทำโดยไม่ตรงไปตรงมาตามที่กฎหมายกำหนด ผลประโยชน์ต่างๆที่ได้ไม่มีการเอาเข้าคลัง เพื่อมาเป็นรายได้ของแผ่นดินที่แท้จริง แต่กลับนำไปใช้จ่ายอีลุ่ย ฉุยแฉก โดยอ้างโครงการต่างๆ
เมื่อถามว่าจะมีการเชิญ คตส.ไปดีเบตผ่านสื่อ นายอุดมตอบว่า
ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของทนายความ ที่ต้องทำตามหน้าที่ให้ลูกความ ปล่อยให้เขาทำมาหากินไปตามหน้าที่ใครหน้าที่มัน ไม่เกี่ยวกับเรา เพราะเรายืนยันว่าทำทุกอย่างตามกรอบของกฎหมายที่มอบอำนาจให้เราทำ
เรื่องอะไรที่จะไปตอบโต้รายวัน
นายสัก กอแสงเรือง กรรมการ คตส. ในฐานะโฆษก คตส. กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า
โดยหลักเราไม่ขอตอบโต้ทีมทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่หากจะจัดการดีเบตผ่านสื่อมวลชน ในการแจ้งข้อกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ขอแนะนำว่าแทนที่จะดีเบตให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงข้อกล่าวหาดีกว่า เพราะตามกฎหมาย คตส.ไม่สามารถจะดีเบตกับใครได้ และเรื่องอะไรที่จะไปตอบโต้รายวัน เพราะก็รู้อยู่แล้วว่า คตส.เป็นใบตองแห้ง ความจริงคนที่ออกมาพูด น่าจะรู้และเข้าใจว่า คตส.มีหน้าที่อะไร อยากให้แต่ ละคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดจะดีกว่า ส่วนจะให้ตนเปิดเผยสำนวนคดีทั้ง 10 คดี นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่ คตส.จะต้องบอกสำนวนใคร และเกรงว่าจะเสียรูปคดี
“ผมคิดว่าโจทก์กับจำเลยไม่น่าจะดีเบตกันได้
อยากให้เข้าใจว่ากระบวนการยุติธรรมมีหน้าที่ตรวจสอบสำนวน และไม่มีหน้าที่ไปดีเบตกับใคร” นายสักกล่าว
นายสักกล่าวอีกว่า
ส่วนกรณีที่ทีมทนายไปยื่นฟ้องศาลปกครอง เรื่องการออกระเบียบ 25 เปอร์เซ็นต์ ให้รางวัลนำจับแก่ผู้ที่บอกเบาะแสว่า ใครจะทำอะไรก็ทำไป เพราะเรื่องนี้ไม่เห็นมีใครต้องเดือดร้อนเลย เพราะเป็นเรื่องติดตามทรัพย์สินให้เป็นของแผ่นดิน และเงินที่ได้ก็ไม่ได้เข้ากระเป๋า คตส.แม้แต่คนเดียว มีแต่รัฐได้ผลประโยชน์ ส่วนคนที่บอกเบาะแสจะได้เงินก็ต่อเมื่อทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินแล้ว