อภิรักษ์ ฟันธงรู้ผลราคารถ-เรือดับเพลิง สัปดาห์นี้

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2549 17:02 น.

อภิรักษ์ ฟันธงภายในอาทิตย์นี้รู้ผลเรื่องราคารถ-เรือดับเพลิง เผยหากราคาสูงโอเวอร์ต้องคุยมท.อีกครั้ง ด้าน ยุทธพงษ์ เบี้ยวนัดรอเลือกตั้งส.ว.เสร็จก่อนค่อยมาคุยใหม่

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบตามสัญญาโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ สปภ.เพื่อตรวจสอบความโปร่งใสการจัดซื้ออุปกรณ์รถและเรือดับเพลิงมูลค่า 6,700 ล้านบาท ชุดนายบุญเสริม วีสกุล ขณะนี้เตรียมส่งรายงานสรุปผลโดยเฉพาะประเด็นราคาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าสูงเกินจริง มายังตนภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากพบความผิดปกติดังกล่าวจริงก็จะประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย และหากมีความจำเป็นก็จะเชิญผู้บริหารของบริษัทสไตเออร์มาหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ การพิจารณายกเลิกโครงการจัดซื้อรถเรือดับเพลิงหรือไม่นั้นยังต้องรอคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดก่อน

สำหรับกรณีที่ นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุความผิดพลาดเรื่องการลงนามเอโอยู และเรื่องของบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค ประเทศออสเตรีย ที่ถูกบริษัทจากประเทศสหรัฐอเมริกาซื้อกิจการไปตั้งแต่ปี 2546 แต่กลับมาลงนามร่วมกับประเทศไทยในนามของประเทศออสเตรียในปี 2547 นั้นเรื่องนี้คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตรวจสอบซึ่งคงไม่เกี่ยวกับกทม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดิมทีในวันนี้เวลา14.00 น. นายยุทธพงษ์ จรัสเถียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางมาพบนายอภิรักษ์ เพื่อนำข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสวนตามข้อร้องเรียนกรณีรถดับเพลิง เช่น ความผิดพลาดเรื่องการลงนามเอโอยู และเรื่องของบริษัท สไตเออร์ ประเทศออสเตรีย ที่ถูกบริษัทจากประเทศสหรัฐอเมริกาซื้อกิจการไปตั้งแต่ปี 2546 แต่กลับมาลงนามร่วมกับประเทศไทยในนามของประเทศออสเตรียในปี 2547 ทั้งนี้ ล่าสุดนายยุทธพงษ์ไม่ได้เดินทางมาพบนายอภิรักษ์ตามกำหนดเดิมที่วางไว้ โดยอ้างติดภารกิจ อีกทั้งมองว่าการนำข้อมูลดังกล่าวมามอบให้นายอภิรักษ์นั้นเป็นการส่งมอบข้อมูลเพียงด้านเดียว เนื่องจากยังต้องส่งมอบข้อมูลดังกล่าวให้กระทรวงต่างประเทศเพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้งอยู่แล้ว พร้อมระบุจะมาพบนายอภิรักษ์หลังจากการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสร็จสิ้นลง เพื่อจะได้สอบถามความคืบหน้ากรณีดังกล่าวจากคณะตรวจสอบที่มีนายบุญเสริมเป็นประธานด้วย

นอกจากนี้นายยุทธพงษ์ยังฝากถามไปยัง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการนายกรัฐมนตรีด้วยว่าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะเรื่องนี้ถือเป็นสัญญาซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐที่ได้ดำเนินการไปแล้ว แต่เมื่อตรวจสอบพบมีข้อพิรุธรัฐบาลก็ควรจัดการให้เรียบร้อย และโปร่งใส