ข้อกล่าวหาเรื่องเครื่องบินรัสเซีย SU 30

เรื่องเครื่องบินรัสเซีย SU 30

ข้อกล่าวหา

1.ทำไมถึงเปลี่ยนเอเยนซ์ขายเครื่องบิน

2.ทำไมการซื้อเครื่องบินรัสเซีย SU 30 MK 12 ลำ จึงได้ตั้งงบประมาณเอาไว้ถึง 35,000 ล้านบาทในขณะที่หนังสือพิมพ์มอสโควไทม์ ได้ระบุว่าขายเครื่องบินได้ 20,000 ล้านบาท เงินส่วนต่าง 15,000 ล้านบาทนั้น เข้ากระเป๋าใคร


ตอบข้อ 1.ไม่ทราบว่านายสนธิ ไปทราบข่าวมาผิด หรือ แต่งนิยายเรื่องใหม่กันแน่ จะบอกอะไรให้ข่าวนี้ที่ออกมาเป็นเพียง การที่ นายก ทักษิณ ได้คุย กับ นาย Vladimir Putin ประธานาธิบดีของรัฐเซีย ว่าน่าจะมีการซื้อขายสินค้า แบบ BATER SYSTEM โดยเป็นการแลกเปลี่ยนซื้อสินค้า โดยรัสเซีย จะขายเครื่องบินให้ แต่ต้องซื้อสินค้าการเกษตรในราคาเท่ากับราคาของเครื่องบินที่ขายให้ มีเพียงเท่านี้ ยังไม่มีการว่าจ้างนายหน้า ยังไม่มีการเซนต์สัญญา MOU ไม่รู้ไปฝันค้างแบบยังไม่เปียกที่ไหนมา

ตอบข้อ 2. การตั้งงบประมาณไว้ถึง 35,000 ล้านบาท คงจะได้ข่าวมาจากที่ประชุมในครม  โดยปกติ การตั้งงบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์ขนาดใหญ่ หรือต่างประเทศจะต้องเป็นการตั้งงบประมาณในลักษณะเผื่อสำหรับหลายปัจจัย อาทิ ผลของอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่คงที่ ทำให้วงเงินการจัดซื้อเปลี่ยนแปลงได้ ผลของการเจรจาต่อรองราคา และโดยเฉพาะยุทโธปกรณ์จะมีประเด็นในเรื่องของเงื่อนไขในการดูแลรักษา รวมถึงอะไหล่หลังการจัดซื้อได้ ประเด็นการตั้งงบประมาณในลักษณะเผื่อจะเป็นเช่นเดียวกับการตั้งวงเงินงบประมาณในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค เส้นทาง สะพานของกระทรวงอื่นๆ ในระบบราชการ และเมื่อมีงบประมาณเหลือจริงก็จะนำไปพิจารณาการแปรญัตติในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อกำหนดวิธีและกรอบโครงการในการใช้จ่าย มิใช่อำนาจของรัฐบาล


จากรายงานในที่ประชุม ครม แจ้งว่า ผู้ที่รายงานเรื่องนี้ให้กับทางมอสโควไทม์นั้น เคยเป็นอดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งในปัจจุบันก็มีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง และนักข่าวคนดังกล่าวยังทำงานให้กับนายสนธิเพื่อปล่อยข่าวสร้างความเสียหายให้กับประเทศ

............................................


เงินบริจาคสึนามิ

ข้อกล่าวหา การับบริจากเงินช่วยผู้ประสบภัยจากภัยภิบัติ สึนามิ 780 ล้านบาท ตอนนี้เหลือเท่าไร และได้ใช้อย่างบ้าง(นัยยะว่าสงสัยว่าจะโกงเงินผู้ประสบภัยว่างั้นเถอะ)

ตอบ เรื่องนี้เป็นกระบวนที่มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ โดยมีคณะกรรมการอำนวยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้เป็นผู้ดูแล ซึ่งเงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ การเบิกจ่ายจะต้องมีการตรวจสอบที่ชัดเจน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี โดยทุกอย่างจะปรากฏอยู่ในระบบฐานข้อมูลการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาจากกรณีธรณีพิบัติใน 6 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งสามารถเปิดดูได้ในเว็บไซด์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตลอดเวลา

แต่น่าสังเกตุว่า เมื่อหลังจากปฏิวัติแล้ว มีการเบิกจ่ายงบประมาณ เพียงแค่ครั้งเดียว คือ วันที่ 24/กย/49 ซึ่งเป็นการเบิกสั่งจ่ายของรัฐบาลทักษิณ ก่อนมีการรัฐประหาร 19 กย 49

และนี่ก็เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลชุดนี้ กว่า 1 ปีไม่ได้เบิกงบประมาณไปช่วยผู้ประสบภัยเลย แล้ว งบประมาณที่เหลือกว่าอีก 20 % ยังอยู่ครบดีหรือเปล่า จนถึงวันนี้ก็ไม่ได้ยินเสียงคำถามจาก นายสนธิ ลิ้มทองกุลเลย


เว็บไซด์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(www.opm.go.th)